รีวิว West Side Story The Musical ละครเวทีที่พร๊อพจะแย่งซีนเกินไปแล้วนะ
เมื่อคุณได้ไปดู West Side Story แบบแรนด้อมไม่มีที่มาที่ไปสุดๆ
ต้นเดือนตุลา 2566 ระหว่างที่คุณกำลังเหม่อลอยมองโฆษณางาน 25th International Festival of Dance & Music บนจอ BTS โลดแล่นไปด้วยการเต้นบัลเล่ต์และการแสดงประจำชาติ คุณก็คิดในใจขำๆว่าจะมี Musical เรื่องไหนมั้ยนะ แบบยังไม่ทันได้ค้นอะไรบนเว็บ….
ไม่นานนัก โฆษณาก็ป้อน Musical “West Side Story” ที่จะจัดขึ้นต่อในหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง มายื่นโอกาสให้ถึงนี่เลยเรอะ 55555
ว่าแล้วก็จ้อจี้ไปดูเช่นเดิมแม้ว่าจะไม่ได้ทำการบ้านใดๆ ก็ตาม (ก็ทำแหละ แค่พอมี background ตึ๋งนึงว่ามันเกี่ยวกับอะไร) ตอนไปดูเรื่องนี้ยังไม่ได้ดูหนัง 2021 ที่ Steven Spielberg กำกับ แต่ตอนที่กลับมาเขียนบล็อกคือดูหนังแล้วเรียบร้อย
ความรู้สึกหลังดูจบ
– มันคือบทละคร Tragedy สไตล์ Romeo & Juliet แต่อยู่บนเซตติ้งช่วง US ทศวรรษที่ 50 ยุคสมัยที่ชาวเปอโตริโก้จำนวนมากอพยพมาที่ NYC และพระนางจาก Gangster จากฝั่งเจ้าถิ่นและฝั่งผู้อพยพก็มาพบรักกันท่ามกลางความบาดหมาง
– เนื้อเรื่องชวนเลี่ยน Puppy Love เดินเรื่องฉับไวอย่างไม่สนหินแดด อย่าไปทักอะไรเยอะเพราะ Plot Hole ตรึม 5555 ซึ่ง Musical หลายๆเรื่องก็จะประมาณนี้นะ คืออย่าไปทักเรื่องบทเยอะ ดูเอา Performance แสงสีเสียงแทน
– ไหนจะเซตติ้งยุคนั้นที่ทำให้พอมาดูตอนนี้ก็มีจะบรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนใจแหละ ความ Gangster ชายฉกรรจ์ ฉากรุนแรงหรือสองแง่สองง่ามที่ไม่ได้เฟรนด์ลี่ต่อการพาบุตรหลานไปดูเท่าไหร่ และกลิ่นอายของละครที่มีความชาตินิยมของ US หน่อยๆ
– ขอชมเรื่องการหยิบจับการใช้ฉากตึกต่างๆ ที่สลับหน้าหลังซ้ายขวา ประยุกต์ตึกตัวเดียวใช้ได้หลายๆฉาก นักแสดงเล่นซะคุ้มเพราะทั้งต้องเต้น ช่วยหมุนฉาก ยกเก้าอี้เอย อะไรเอย
– ตอนแรกนั่งข้างบนในฮอลล์ศูนย์วัฒนธรรมชั้น 3 ก็ว่าไกล แถมที่นั่งช่างสูงชัน ทางเดินแค๊บแคบ จะเดินไปที่นั่งข้างในคือคนที่นั่งริมนอกแทบจะหลบไม่ได้ มันแคบกว่าในโรงหนังอีก แต่ไปๆมาๆ กลายเป็นที่นั่งที่ดีกว่าที่คิดเพราะได้เห็นทิวทัศน์ในมุมสูง (Bird Eye View) ทำให้ได้เห็น Choreography ในองค์รวม เพราะถ้านั่งข้างล่าง ก็คงโดนนักแสดงที่ยืนแถวหน้าๆ บังหมด ทั้งๆที่ Choreography ของเรื่องถูกออกแบบไว้ให้มีการแปรแถว มีหลายเลเยอร์ที่ชวนชมไม่ใช่น้อย ข้อเสียคื๊อออ เสียงไมค์อมจ้าาา ฟังคำร้องไม่ค่อยออก ยังดีที่มีซับจากจอเล็ก ๆ ด้านข้างคอยช่วย ส่วนตัวว่าเค้าแปลได้ดีเลย
– เป็นเรื่องที่รู้สึกว่าถ้าไปแสดงเองนี่น่าจะเหนื่อยหอบกิน ร้องเพลงก็เรื่องนึงนะ แต่ท่าเต้นก็ยากโคตรเพราะทวงท่าแนวบัลเลต์เยอะ ไหนจะมีท่าพวกควงมีด, ม้วนหน้า, ม้วนหลัง, ยก Lift แบบเชียร์ลีดเดอร์ นี่มันสุด Acrobatic 55555
– บทบาทพระนางจางจริงๆ จางทั้งในหนังภาพยนตร์และละครเพลง กล่าวคือตัวละครสมทบดันเด่นกว่า โดยเฉพาะพี่สะใภ้นางเอก (Anita) ที่แบกทั้งเต้นและร้องแบบเด่นมากกกก ส่วนนางเอก (Maria) เด่นขึ้นมานิดนึงตอนที่มีช่วงที่เธอได้โชว์เรนจ์เสียงในย่าน Opera ขึ้นมาบ้าง
– หลังจากได้ไปดูตัวหนังจอเงินเพิ่ม โอเคนะ ถือว่าดูได้ดูดี ไม่ขี้เหร่สำหรับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากละครเพลง จะว่าไป ผู้กำกับจะมีงานถนัด/ไม่ถนัดของตัวเอง แต่ Spielberg แกไปทำหนังแนวไหนก็ไม่แป้ก ความสามารถแกกว้างจริงๆ แฮะ เพียงแต่ในภาพรวม เราให้คะแนนฉบับ Musical ดีกว่าเพราะมันมีการถ่ายทอดทางอารมณ์หลายๆ อย่างที่ถ้าไม่ได้สัมผัสการเต้นสด,ร้องสด,เปลี่ยนฉากและแสงสีอันจัดจ้านแล้วอรรถรสมันหายไปเลย เป็นสิ่งที่การดูจากภาพยนตร์จอเงิน มันไม่สามารถส่งอารมณ์มาถึง ประกอบกับการดัดแปลง Musical มาลงหนังจอเงินมันมีข้อจำกัดหลายๆอย่างด้วย อย่างเช่นการส่งพลังของนักแสดงมาหาผู้ชมนี่เห็นได้ชัดจริงๆ เชื่อว่าเหล่าคนในกองถ่ายที่ได้สัมผัสการแสดงสดของนักแสดง ระดับความขนลุกขนพองนั้นคงต่างกับที่คนดูชมจากในโรงหนังที่ดูวิดีโอที่โดนอัดมาอีกรอบแน่ๆ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
🌠 บันทึกคอนเสิร์ต GARNiDELiA 2023 คอนเสิร์ต Anisong ในไทยของเราในรอบ 8 ปี !
🎹 บันทึกคอนเสิร์ต David Foster & Friends Bangkok 2023 ตัวเก๋า ตัวพ่อ และผองเพื่อน
🌙 รีวิว Luna The Musical วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่าไปเจอเสียงเพลง @ Emquartier
🌼 [เปิดกล่อง] อัลบั้ม Sugababes One Touch ครบรอบ 20 ปี พร้อมลายเซ็น 3 สาว !
🎵 รวม 40 OST เพลง Fire Emblem โปรดน่าฟังเกือบทุกภาค !
🔑 ติดตามบล็อกประสบการณ์ดนตรีและเสียงเพลงอื่นๆ ได้ใน https://gleegmjournal.com/category/pop-culture/music-talk/
🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี | 🎬 รีวิว Film Series หนัง ซีรีส์
📊 Data Analytics – Tech | สารพันวงการ Data และเรื่อง Techๆ | 🪴 สารบัญรีวิวทุกประเภท All Reviews