รีวิวอนิเมะฉบับย่อ: Texhnolyze / Super Crooks / Shoujo Kageki Revue Starlight (TV+Movie)

รีวิว Texhnolyze Super Crooks Shoujo Kageki Revue Starlight

1. Texhnolyze (6/10)

review texhnolyze

Texhnolyze อนิเมไซไฟปรัชญาจ๋าอีกตัว ที่คนชอบของเคี้ยวยากๆ น่าจะอยากได้ลิ้มลอง เปิดดูตอนที่หนึ่ง ได้ยินเพลง OP โอ้ววว นี่มันไวบ์เพลงเทคโนที่ไม่ได้ยินมาเนิ่นนาน ฟีลเหมือนเพลงเทคโนที่ได้ยินในฉาก นางาโตะ vs อาซาคุระในในเรื่องฮารุฮิ บรรยากาศเล่าเรื่องหลังจากนั้นคือเกินคาดเพราะมีบทพูดรวมกันไม่ถึงห้านาที นอกนั้นภาพเล่าเรื่องอย่างเดียว แช่คนดูด้วยบรรยากาศแสนอึดอัดราวกับวอร์มอัปคนดูว่าขึ้นพร้อมขึ้นรถไฟขบวนแสนติสแตกนี้รึยัง?

พอดูตอนแรกจบ คำถามในหัววิ่งเข้ามาเลยคือ ใครกำกับ+เขียนบทเนี่ยยย 55555 ไม่ปราณีคนดูเลย โดยอยากจะนิยามสโลแกนเรื่องนี้ว่า “ดูเรื่องนี้ต้องอดทน” พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ที่แสดงเป็น แดง ไบเล่ในหนัง 2499 อันธพาลครองเมือง ไม่ได้กล่าวไว้

เมื่อดูไปถึง 7 ตอน เดินเรื่องเอื่อยมากกกก รอดูว่าจะไปสุดรึจะไปเร่งเครื่องที่ช่วงไหน อนิเมไซไฟที่ลักษณะคล้ายๆ กันอย่าง Ergo Proxy ยังมีจังหวะเดินเรื่องชวนติดตามกว่าหากเทียบกันใน 7 ตอนแรก

และเมื่อดูจบปุ๊บบบ นี่มันอนิเมที่ไม่ใช่สำหรับทุกคนจริงงง มันเป็นงานไซไฟดิบๆ ไม่เน้นชูภาพสวยตาแตก, ดนตรีประกอบเวอร์วังเลย จังหวะการเดินเรื่อง (Pacing) เนือยยยทั้งเรื่อง ต้องใช้ขันติในการดูอย่างมาก 555 มันเต็มไปด้วยพล๊อต:

  • สัญชาตญาณมนุษย์, การพัฒนามนุษยชาติ
  • เมื่อมนุษย์เราสวมใส่ แขนขาเทียม นั่นทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราน้อยลงหรือไม่?
  • ลัทธิ ความเชื่อและการเล่นพรรคเล่นพวก

ในภาพรวมคะแนนให้น้อยกว่า Ergo Proxy เพราะเดินเรื่องแบบไม่เฟรนด์ลี่คนดูเท่าไหร่กับจังหวะเฉลยกระชากๆ

คิดว่าถ้าหากได้วนมาดูรอบสอง คงได้อรรถรสมากขึ้น เพราะกว่าจะปะติดปะต่อเนื้อเรื่องได้กว่าครั้งแรก ก็ตอนฉาก Infodump ของเรื่องนี้ที่ยัดมาในตอนท้ายเรื่อง ซึ่งเราไม่ใช่แฟนของการ Infodump อัดท้ายเรื่องแบบนี้ แต่พบว่าหลายๆ เรื่องก็ใช้ท่านี้นี่สิน้า

การออกแบบเซตติ้งโลก ทำได้ว้าวล้ำ ฟีลเหมือนดูหนังเรื่องนึงที่ Jim Carrie แสดง แค่ว่ามันเล่าเรื่องได้ไล่คนดูเฟร่อ 5555 คือไม่ผิดนะ คงเป็นสไตล์แกด้วยแหละ (คน Series Composition เดียวกับ Serial Experiments Lain) ซึ่งถ้าหากคุณชอบความท้าทาย ถนัดงานเชิงทดลอง ต้องมาชิมลางจริงๆ

ข้อเสียอีกอย่างคือดูเรื่องนี้เหมือนเรากำลังอ่านพงศาวดาร อ่านบันทึกเล่าว่ามีลำดับเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในเมืองนี้บ้าง แต่เราไม่รู้สึกอินกับตัวละครไหนจนไหลตามไปกับเค้าให้รู้สึกเชียร์รึอะไร อย่างพระเอก อิจิเสะ ที่ดูชีวิตสะบักสะบอมสุด ก็รู้สึกว่ามันถูกเล่าเพราะบทส่งมาให้เล่าซะมากกว่า

จริงๆ มีแผนในหัวว่าอยากเขียนบล็อกรีวิวเรื่องนี้แบบแยกมาเป็นโพสอันเดียว แต่เอาจริงมันเป็นเรื่องที่ใช้ทั้งขันติและพลังในการแกะ Message เยอะกว่าอีกสองเรื่องที่เคยดูอย่าง The Big O(รีวิว), Ergo Proxy(รีวิว) 😂 และคงจะต้องไปหาอ่านข้อมูลที่อื่นประกอบเพิ่ม อีกทั้งยังมีคิวบล็อกอื่นที่รอเขียนอยู่ เลยคงจะต้องพักไปก่อนล่ะนะ

2. Super Crooks (6/10)

review super crooks anime

บนโลกนี้มีซีรีส์ที่เกี่ยวกับ Superheroes จนเกร่อ มันต้องมีซีรีส์เกี่ยวกับ Supervillains (จอมวายร้าย) บ้าง ! (ถึงความจริงซีรีส์จอมวายร้ายก็ไม่ได้สดใหม่ปานนั้นก็เถอะ 555)

Super Crooks อนิเมที่เป็นภาคเสริมของซีรีส์คนแสดง Jupiter’s Legacy โดยโฟกัสที่เส้นเรื่องตัวร้ายอย่าง Johnny Bolt (ที่ชื่อก็แสนเรียบง่ายและมีเอกลักษณ์ชัดว่าตานี่มันต้องมีพลังควบคุมสายฟ้า 😂😂) ผู้ที่จับพลัดจับผลูมาร่วมหัวกับวายร้ายรองบ่อนตัวอื่นๆ เพื่อทำการโจรกรรมครั้งยิ่งใหญ่…ฟีลหนัง Ocean’s 11 เลยแฮะ

ทว่า เรื่องนี้ดูจบแบบเลยผ่านเลย ไม่ได้หวือหวาอะไร ใส่ความ Gore เลือดสาดไปเรื่อย กับการเล่าเรื่องสไตล์หยาบโลนดิบเถื่อน ที่ในหลายๆ จังหวะดูแล้วชวนกระอักกระอ่วนหน่อยๆ แคสต์ในทีมโจรกรรมก็ไม่ได้น่าดึงดูดแต่อย่างใด ดูแล้วผูกพันสุดคือพระนางนั่นแหละที่ดูมีมิติ ส่วนที่เหลือคือเฉยมากเลอ มีบางช่วง(ฉากโจรกรรมกลางเรื่อง) ที่ดูแล้วน่าติดตามดีแต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องอวยยกนิ้วว่าห้ามพลาด ไปตำ

ถ้าเอางานอนิเมธีมซูเปอร์ฮีโร่ ดู Tiger & Bunny แล้วเพลินกว่า แต่ก็นะธีมเรื่องนั้นไม่ใช่ Heist (โจรกรรม) แบบเรื่องนี้ กับ Tiger & Bunny หมุนรอบฝั่งฮีโร่ไม่ใช่วายร้าย เลยจะมีคนไปเทียบเรื่องนี้กับ Great Pretender มากกว่าเพราะเป็นแนวโจรกรรมเหมือนกัน

ความดีความชอบที่พอจะชมได้บ้างคือเพลง Opening ที่มาในกลิ่นอาย Electronic Disco อย่าง Alpha แต่งโดย Towa Tei (เหมือนจะเป็นศิลปินที่ทำแนวเพลงลักษณะนี้อยู่แล้ว) แต่เอาจริง ฟังไปๆ มาๆ เพลินติดหูกว่าที่คิด



3. Shoujo Kageki Revue Starlight (6/10)

review kageki revue starlight

อนิเมออริจินัลว่าด้วย โรงเรียนการละครปั้นดาวให้เป็นนักแสดงละครเวที โดยมีเลเยอร์ในการเล่าเรื่องสองชั้น เลเยอร์ด้านบนคือชีวิตนักเรียน Slice of Life และเลเยอร์ด้านล่างคือทัวร์นาเมนต์ต่อสู้แสนแฟนซี (+ร้องเพลง) เพื่อเฟ้นหาผู้แข็งแกร่งแห่งคณะ Starlight โดยที่ผู้ชนะจะขอพรใดก็ได้สำเร็จหนึ่งข้อ

ตัวเรื่องในหนึ่งซีซัน เล่าครบจบทั้งสองตัวละครหลัก หัวดำ-ส้ม (ไม่วายใช้ลักษณะคู่หูตัวละครนำยอดฮิตที่ ร่าเริงหนึ่ง+สุขุมหนึ่ง เช่นเดิม 5555) และตัวละครรองในโรงเรียนการละครให้พอรู้จักปูมหลังในแต่ละคร แพทเทิร์นการเล่าเรื่องแต่ละตอนจะเป็นการเล่าชีวิตปกติสุขของเหล่านักเรียนและตัดสลับด้วยฉากแปลงร่าง (ที่ใช้เพลงอันแสนฮึกเหิม !)+ฉากการประลองสุดแฟนตาซีที่ใส่ไม่ยั้ง นี่ว่าได้แรงบันดาลใจการเล่าเรื่องจาก Revolutionary Girl Utena ซึ่งทางผู้กำกับ Furukawa ก็เคยเป็นลูกมือให้ผู้กำกับ Utena มาก่อนจึงไม่ค่อยแปลกใจนัก 55555 การขมวดปมไปฟินาเล่ท้ายเรื่องที่บทพูดหรือการกระทำเริ่มใส่สัญญะมามากขึ้น (อันนี้ก็รับอิทธิพลมาจากเรื่องอุเทน่าสินะ 😂😂) และถ้าใครจะบอกว่าเรื่องนี้ใกล้เคียงกับสามเรื่องต่อไปนี้: Revolutionary Girl Utena (เซตติ้งตามที่เล่าไว้ด้านบน), Kageki Shoujo!!(โรงเรียนการละคร), Madoka Magica (เงื่อนงำที่ซ่อนอยู่ภายใต้การต่อสู้) บอกตามตรงว่าไม่แปลกใจเลย 5555

ในภาพรวมทุกอย่างผ่านเกณฑ์ในทุก Checklist งานภาพโอเค ฉากสู้พอได้ เนื้อเรื่องเล่าเกลี่ยบทครบตัวละครที่ไม่ควรจาง เนื้อเรื่องมีใส่ความซับซ้อนเชิงสัญลักษณ์มาบ้าง

แต่สำหรับเราดูจบแล้วก็เลยผ่านเลยเหมือนกันแฮะ ไม่ได้อินอะไรมากนัก คือมันไม่สอบตกในความที่เป็นอนิเมออริจินัล (ซึ่งหลายๆ เรื่องมักสอบตกจนดูแล้วอยากลืมที่เคยดูมันเสีย) แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับสร้างความประทับจิตประทับใจให้เราจนต้องอวยว่าห้ามพลาดเลยนะ ในเชิงเคมีผองเพื่อนในโรงเรียนการละคร เราชอบ Kageki Shoujo!!(รีวิว) มากกว่า แค่ว่าเรื่องนั้นไม่ได้มีฉากบู๊ยิงพลัง 5555

4. Revue Starlight: The Movie (7/10)

หลังจากดองไปพักนึง ก็เพิ่งได้มาลุยต่อกับหนังบทสรุปซีรีส์ตอนเดือนพฤศจิ เมื่อเด็กสาวเข้าสู่ปีสุดท้ายของโรงเรียนการละครแล้วต่างต้องแยกย้ายไปเติบโต บ้างก็สมัครเอเจนซี่ดังๆ บ้างก็ไปต่างประเทศ ปูมหลังของสองตัวละครหลักอย่างคาเรนผู้สัญญากับฮิคาริไว้ตั้งแต่ 5 ขวบว่าจะสานฝันไปแสดงละครเวที ‘Starlight’ ด้วยกัน ได้มี Flashback อธิบายปูมหลังมากขึ้นในหนังตัวนี้ถือว่าแก้จุดอับที่เล่าได้ผิวเผินในภาคทีวีมาก แน่นอนว่าพอเวลาคนเราจะจากกัน ให้เห็นภาพก็เราๆวัยม.6 ที่ต้องแยกย้ายไปต่อมหาลัย มันก็คงปวดใจบ้างล่ะที่เพื่อนที่ร่วมเรียนร่วมกิจกรรมกันมานานหลายปีต้องมีแยกจาก หนังทยอยเคลียร์ปมของแต่ละคู่จนจบครบเรียบร้อย (ใครอินกับตัวละครเป็นพิเศษก็ชงเป็นเรือได้เลย 55555) ชอบฉากที่ทำลายโตเกียวทาวเวอร์จริงๆ เป็นสัญญะที่บอกว่า

ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งที่สัญญามาเนิ่นนานแล้วนะ อ้าว แล้วเมื่อสิ่งที่เรายึดมั่นมาเป็นสิบๆ ปีกำลังจะเปลี่ยนไป งั้นฉันจะเป็นใครล่ะ เราไม่มีเสาให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้ว…ไม่หรอก ก็ยังเป็นเธอนั่นแหละ แต่เป็นเธอในหนังสือบทใหม่ไง เมื่อโตเกียวทาวเวอร์ได้พังทลาย เมื่อนั้นพันธนาการก็ได้คลายออก

สัญญะอันคมคายที่บางทีก็เก็ท บางทีก็ไม่เก็ท 5555
โตเกียวทาวเวอร์ สุดยอด Soft Power และแลนด์มาร์คประจำเรื่อง 5555

โดยรวมให้โอเคกว่าตรงที่พยายามเล่าส่วนที่ขาดหายในภาคทีวีเพิ่ม แต่พาร์ทการต่อสู้ที่พ่วงการอุปมาอุปไมยก็ดูเก็ทบ้างไม่เก็ทบ้างเป็นจังหวะๆ ดูแบบม่วนๆ จอยๆ ไปแทน แม้จะไม่ได้มีความผูกพันกับตัวละครในเรื่องนี้เท่าไร (แนวละครเวทีและเคมีตัวละคร เราอินกับ Kageki Shoujo มากกว่าตามที่เขียนข้างบน) แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่เล่าโดยผสาน Symbolic ได้วิ่งสู้ฟัดดี แกก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Utena อ่านะ 5555

ใครอยากลองอนิเมแนวเพลงร้อง+แกะสัญญะ+บู๊สไตล์แฟนตาซี+ยีราฟพูดได้(ห๊ะ?) มาลองได้จร้า

คะแนนเฉลี่ยซีรีส์ Revue Starlight (6.5/10)


บทความรีวิวอนิเมะอื่นๆ

Walkure Last Mission 2023 คอนเสิร์ตสดอำลา Macross Delta ในโรงหนัง

🔑 9 (2+7) เพลง อนิเมะที่ดนตรีแปลกในวงการ Anisong แถมติดหูอีกต่างหาก

🔑 รีวิวอนิเมะฉบับย่อ: Lycoris Recoil / Fena Pirate Princess / Blade Runner Black Lotus

🔑 รีวิวอนิเมะฉบับย่อ: Macross Delta Zettai Live!! / Spriggan / Ya Boy Kongming

🔑 ติดตามรีวิวอนิเมะอื่น ๆ ได้ใน https://gleegmjournal.com/category/pop-culture/anime/

🔑 แอดคอนแทคท์กันได้ใน: Anilist | MyAnimeList

🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี | 🎬 รีวิว Film Series หนัง ซีรีส์

📊 Data Analytics – Tech | สารพันวงการ Data และเรื่อง Techๆ | 🪴 สารบัญรีวิวทุกประเภท All Reviews

รีวิว Texhnolyze Super Crooks Shoujo Kageki Revue Starlight

Loading

GleeGM

My journal on personal life and interests including Data Analytics 📈, Books 📚, Music 🎶, Basketball 🏀, Figure Skating ⛸, Anime, Film 📺, Tarot, Lenormand, Uranian Astrology🔮

You may also like...