รีวิวอนิเมะฉบับย่อ : Lycoris Recoil / Fena Pirate Princess / Blade Runner Black Lotus

by GleeGM · May 13, 2023

รีวิว Lycoris Recoil Fena Blade Runner Black Lotus

ปก รีวิว Lycoris Recoil / Fena Pirate Princess / Blade Runner Black Lotus

หลังจากรอบที่แล้วมัดแพ็ครีวิวอนิเมะสามตัวไป Macross Delta Zettai Live!! / Spriggan / Ya Boy Kongming ชักติดใจกับการรีวิวย่อๆ ซะแล้วแฮะ 555 ถ้าไม่เจอเรื่องที่อยากแยกมาเล่าเดี่ยวๆ ก็คงจะขอมัดรวมให้อยู่ในโพสเดียวกันไปก่อนแล้วกันนะ

ครั้งนี้มากับอนิเมะญี่ปุ่นจ๋าและอนิเมชั่นพันธุ์ทางที่ได้ผู้กำกับอนิเมญี่ปุ่นมาช่วยคุม

สารบัญ

1. Lycoris Recoil (6/10)

ช่วงปลายปี 2022 คนไฮป์กับออริจินัลอนิเมตัวนี้ไปพอสมควร หลังจากรอให้อนิเมฉายจบและเรามีเวลาพร้อมดูสักที พบว่าพอดูจบ ค่อนข้างเฉยมากๆ มันดูคั่นเวลาได้แต่ถึงกับประทับใจต้องไปบอกต่อมั้ย? คงไม่ใช่สำหรับเรา แม้โปรดักชั่นในงานภาพ การออกแบบตัวละคร มันจะออกมาดีก็ตาม งานเพลงเองก็ใช่ย่อยซะที่ไหน เพลง OP ร้องโดย ClariS ที่ตัวเพลง Alive มาในคอนเซปต์ Girl Crush! กรี๊ดดด น้องๆได้แนวเพลงแบบนี้สักที !!! ED ร้องโดย Sayuri นักร้องตัวตึงๆ ทั้งนั้น แต่ดันมาโดนฉุดมีนโดยเนื้อเรื่องที่เป็นเกณฑ์หลักในการให้คะแนนของเรา (เกณฑ์รองคือพัฒนาการของตัวละคร) เพราะเนื้อเรื่องและเซตติ้งเหมือนขึ้นโครงมาหลวมๆ ไม่ได้ลงลึกนัก มีเล่าเบื้องต้นว่าในญี่ปุ่นมีองค์กร Lycoris ที่คอยเฝ้าระวังสถานการณ์ไม่สงบ (คล้ายหน่วย Precrime ในหนัง Minority Report) ฝั่งตัวร้ายเป็นใคร แต่ทุกอย่างช่างเล่าด้วยความผิวเผิน ที่เล่ามาเพราะเหมือนบทมันบังคับให้เล่าซะมากกว่าจะทำให้เรารู้สึกเนื้อเรื่องมันเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น หากจะบอกว่าจำนวนตอนมันมี 13 ตอนเองนา ไม่มีเวลาให้ลงพล๊อตแต่ละจุดหรอก ก็จะขอยกตัวอย่างอนิเมบทออริจินัลที่มีหนึ่งซีซันเหมือนกันได้แก่ Deca-Dence (รีวิว), Vivy (รีวิว) ที่เรามองว่าการเล่าเรื่องและการสำรวจเซตติ้งต่างๆ นานาทำได้ลงตัวกว่า แม้กระทั่งเคมีตัวละครคู่หลักอย่างจิซาโตะหรือทาคินะเอง ถึงจะประคองโมเมนตัมให้มีสีสันกว่าเนื้อเรื่องที่ดูกระท่อนกระแท่น แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถดึงให้เรารู้สึกว่าเรื่องนี้ประทับใจกลับบ้าน จึงเป็นอนิเมะที่ดูแบบผ่านมาผ่านไป ไม่ได้อินกับใครเท่าใดนัก เป็นอีกครั้งที่เสียดายศักยภาพเช่นเคยว่าหากปลุกปั้นเนื้อเรื่องให้แข็งแรงกว่านี้สักหน่อย มันจะดึงภาพรวมให้น่าสนใจมากขึ้นแค่ไหน

2. Fena Pirate Princess / Kaizoku Oujo (5/10)

อนิเมออริจินัลอีกเรื่องที่เราหักคะแนนด้วยเกณฑ์เดียวกับเรื่องบน กล่าวคือหน้าหนัง ชื่อชั้นทีมงานค่ายช่างดูดี งานภาพไม่แย่ ดีไซน์ตัวละครตื่นตา เนื้อเรื่องแนวผจญภัยวางไว้น่าสนใจ เพลง OP/ED ร้องโดย JUNNA และ Suzuki Minori สองสาวหัวทัพเรือยูนิตนักร้อง Walkure จากอนิเม Macross Delta แล้วเพลงเจ๋งมากด้วยนะ กรีสสส !!!! แล้ว OST ประพันธุ์โดย Yuki Kajiura โอ้โห มันต้องอลังการอะไรเบอร์นี้

ทว่า..เรื่องนี้เป็นความวายป่วงในด้านการวางแผนเนื้อเรื่องที่อาการหนักกว่าข้างบนแบบมาก ! ดูจบแล้วเหมือนเรากำลังดูคนดัดแปลงนิยายไตรภาคสามเล่มให้จบในหนังสองชั่วโมงอ่ะ มันจะรีบเฉลยรีบตัดฉากแค่ไหน

เรื่องนี้เป็นเช่นนั้น วางสเกลเนื้อเรื่องได้ยิ่งใหญ่มาก ทำยังกะมีสัก 26 หรือ 50 ตอน ปรากฏว่ามีแค่ 13 ตอน…

ผลลัพธ์ที่ได้คือรีบบึ่งเดินเรื่องอย่างตามมีตามเกิดไม่สนว่าคนดูจะอินกับปมที่หยอดหรือเคมีตัวละครหรือเปล่า รู้จักผิวเผินทุกตัว จะอินความโรแมนติกนางเอกพระเอกก็ไม่ สมาชิกในเรือก็ไม่รู้จะรู้สึกยังไงกับเขา ๆ ดี แม้กระทั่งตัวร้ายที่ดูมีแอร์ไทม์เล่าปูมหลังเยอะกว่าใครเพื่อนก็ไม่รู้จะสงสารท่าไหนดี จังหวะเล่าเรื่องแสนกระชาก ปมที่หยอดมากลับเฉลยดื้อๆ โดยไม่มีการปูที่มาอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ปมเนื้อเรื่องที่เล่นหยอดมามีตั้งแต่

– การค้นหาดินแดนลับแล Eden
– หินควอตซ์ปริศนา
– การส่งต่อหน้าที่ไปยังรุ่นสู่รุ่น
– การรีเซ็ตโลก (นี่คือปมทั้งหมดที่หยอดมาสำหรับ 13 ตอน…)

บรรยากาศเรื่องเหมือนดู Nadia: The Secret of Blue Water เหมือนกันนะ การผจญภัย ความลับจากโบราณกาล

เป็นอนิเมะที่นิยามได้ชัดๆ ถึงความไม่เป็นปึกแผ่น เน้นเดินเรื่องสับๆ แต่ปมที่อัดมาเยอะพอตัว ถ้ามีตอนเพิ่มอธิบาย + สำรวจตัวละครหลักทีละคน มันคงอินกว่านี้ อันนี้เหมือนรีบเล่าเรื่องให้จบๆ ไปตามหน้าที่ คนดูได้แค่อือออพยักหน้า แต่ไม่อินไรกับพล๊อตกับเคมีตัวละครทั้งสิ้น

เราเดาว่าทีมเขียนบท วางเรื่องนี้ไว้สำหรับอนิเม 2-cour (ว่าบาป จะยืดเป็น 3 รึ 4-cour แบบ Blood+ ก็ได้ อาจจะมีอืดบางตอนหน่อยๆ) แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้โดนตัดโควต้าเหลือฉายเพียง 1-cour ก็เลยตัดสินใจยัดเนื้อเรื่องเล่าทั้งหมดซะอย่างนั้น ผลงานเลยออกมาลุ่มๆ ดอนๆ แบบนี้

เสียดายศักยภาพงานด้านที่เหลือทั้งหมด เพราะโดนเนื้อเรื่องฉุดคุณภาพโดยรวมให้พังลงอย่างทลายมลายสิ้น ไม่มีอะไรให้แนะนำนอกจากไปฟัง OST กับเพลงเปิด/ปิดแยกแล้วข้ามการเสพเรื่องนี้ไปดีกว่า

3. Blade Runner: Black Lotus (4/10)

นี่ไล่ดู Blade Runner ทั้งหนังภาคแรก (1982), ภาค 2049 (2017) หนังสั้นอนิเมชั่น Black Out (2017) รอบนี้มาต่อกันด้วยภาค Black Lotus ที่เหมือนเป็น Side Story ของจักรวาล BR

การจะดู Blade Runner 2049 ให้ครบๆ มันจะมีหนังสั้นเชื่อระหว่างภาคแรกมาภาค 2049 อยู่สามตัว เรียงตามไทม์ไลน์คือ
อนิเมะสั้น 2022 – Black Out (โดยผู้กำกับอนิเม Cowboy Bebop: ชินอิจิโระ วาตานาเบะ)
หนังสั้นคนแสดง 2036 – Nexus Dawn (เส้นเรื่องของ Wallace แสดงโดย Jared Leto)
หนังสั้นคนแสดง 2048 – Nowhere To Run (เส้นเรื่องของ Sapper แสดงโดย Dave Bautista)

โดยภาค Black Lotus กำกับโดยผู้กำกับเดียวกับ Black Out เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ Wallace เช่นเคย เส้นเรื่องเกิดระหว่าง Black Out และ Nexus Dawn เป็นช่วงก่อนที่พี่แกต้องเปลี่ยนเป็นลูกตาเทียมในภาพยนตร์

กระแสว่ามันแย่ ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ แหละนะ 5555 เดินเรื่องเป็นเส้นตรงชิ้งง เล่าได้น่าเบื่อจริงๆ ภาพอนิเมก็แข็ง แต่มันอิงองค์ประกอบจากหนังตรึม เครื่องตรวจเท็จเอย เครื่องขยายรูปเอย สาวญี่ปุ่นบนจอทีวียักษ์ ก๋วยเตี๋ยว เหมาะแก่การดูคั่นเวลามากกว่า สิ่งที่พอชมคือ Easter Egg ของจักรวาลหนังที่ทำให้คนเห็นแล้วหวนคิดถึง กับเพลงร้องที่ใส่มาในตอนจบแต่ละตอน ซึ่งมันฟังเดี่ยวๆ แล้วเข้าท่าไม่หยอก (แค่ไม่เข้ากับโทนเรื่อง)

เนื้อเรื่องในภาค Black Lotus จะวนๆ อยู่ในบริษัท Wallace บริษัทผลิต Replicant ที่มาควบกิจการบริษัท Tyrell ของภาคแรก วีรกรรม Niander Wallace ออกลายแสบตั้งแต่ในภาคนี้ ส่วนตัวว่าทีมงานโชว์แพชชั่นในการอิงองค์ประกอบเซตติ้งจักรวาลเฟรนด์ไชส์นี้แหละ แต่เนื้อเรื่องก็ดูเลยผ่านเลย อย่าคาดหวังตรงนี้เยอะ

เราว่า Dune กับ Blade Runner มันฟีลคล้ายๆ กันตรงที่เป็นไซไฟยุคเก่าที่ล้ำในเวลานั้น แต่ถ้าใครเอามาดูตอนนี้ก็อาจจะเบื่อหรือรู้สึกเรื่องมันเฉยๆ แล้วในท้องตลาดปัจจุบันก็ได้ ซึ่งถ้าหากมองในแง่มูลค่าก็เข้าใจที่คนยังเอามาต่อยอดเรื่อยๆ แต่ถ้าดูเอาสนุกเอามันส์หรือสดใหม่ก็คงไม่ตอบโจทย์นัก

ฟีลคล้ายๆ อ่านงานคลาสสิก Dracula, Frankenstein ที่อ่านเอาสนุกคงจะไม่ได้ เพราะงานเขียนคนละยุคสมัยกัน แต่เป็นเรื่องของคุณค่าในผลงาน ฉีกแปลกในเวลานั้น ซึ่ง BR เองก็เป็นแม่แบบ-แรงบันดาลใจ ให้ไซไฟหลาย ๆ เรื่องในเวลาถัดมาด้วย หนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นอนิเมะ PSYCHO-PASS 5555