รีวิว Yamato 2202, 2205 รวมสองภาค Space Opera สุดปังที่ขาดสเน่ห์ภาคแรกไปเสียแล้ว

รีวิว yamato 2202 2205


Uchuu Senkan Yamato หรือชื่อไทยเรือรบประจัญบานยามาโตะได้ออกรีเมคภาคแรกในชื่อภาค 2199 ตอนปี 2012 เราอวยมันไว้มากมายจนต้องบอกต่อคนอื่นแค่หาดูยากหน่อยในบทความนี้(คลิก)และแล้วมันก็ถึงเวลารีวิวของภาคต่ออย่าง Yamato 2202 และ 2205 (ออกฉายปี 2017 และ 2021 ตามลำดับ) ภาค 2199 ทำมาตรฐานไว้สูงจนเป็นที่กดดันของภาคต่อๆ มา แฟรนด์ไชส์นี้จะยังคงรักษามาตรฐานเดิมได้มั้ย? ว่ากันตามตรงคุณภาพแผ่วลงไปเยอะ โดยบทความนี้เราขอรีวิวรวบยอดทั้งสองภาคเลยทีเดียว

yamato 2202 visual key
ใบปิด Yamato 2202
พร้อมออกเรือกอบกู้กาแล็กซีอีกครั้ง !

Yamato 2202 ภาค Warriors of Love — นักรบแห่งรัก

ในตอนจบภาค 2199 หลังจากเรือยามาโตะได้นำเทคโนโลยีคอสโมรีเวิร์ส (Cosmo Reverse) กลับมาที่โลกและสามารถฟื้นฟูดวงดาวได้อย่างสำเร็จ ใช้เวลา 3 ปี จดสัญญาสงบศึกกับทางดาวกามิลัส อัปเกรดอุปกรณ์รบทางทหารต่าง ๆ นั่นแลดูขัดกับความปรารถนาของสตาช่าในช่วงท้ายของภาคแรกไม่ใช่น้อย ไม่นานนัก ทางชาวโลกได้รับการติดต่อจากเทเรซ่า เสียงเพรียกจากจักรวาล ติดต่อมาว่าจักรวาลกำลังถูกคุกคามจากจักรวรรดิ์กัทลันติส (Gatlantis) ถึงเวลาแล้วที่ลูกเรือยามาโตะต้องออกเดินทางเพื่อช่วยกอบกู้กาแล็กซีนี้

คนเรามันก็ตื่นเต้นล่ะที่จะได้ดู 2199 ภาคต่อ รอนานด้วย 5 ปีเลย ภาคนี้เปลี่ยนคนคุมตัวเรื่อง (Series Composition) จาก Yutaka Izubuchi จากมาเป็น Harutoshi Fukui (ที่น่าจะเป็นการเปลี่ยนตัวที่น่าเสียดาย)

เปิดฉากมา เปิดตัวด้วยความเทพของเรือยามาโตะสวยๆ และ Timeskip พัฒนาการของลูกเรือต่างๆ ไม่ว่าจะมาโคโตะที่แต่งงานกับสึบาสะ มีลูกเรียบร้อย กัปตันฮิจิคาตะที่มาคุมบังเหียนแทนกัปตันโอคิตะที่จากไป เมื่อยามาโตะต้องออกเดินทางสู่อวกาศอีกครั้ง ลูกเรือชุดเก่าบางคนได้ออกไปตั้งหลักใช้ชีวิตอีกทางกันแล้วจึงทำให้ต้องมีการสลับสับเปลี่ยนลูกเรือชุดใหม่เข้ามา รวมถึงแนะนำกองทหารม้าอวกาศ (Space Cavalry Regiment) คนสวมเกราะหุ่นยนต์ดีๆ มาช่วยเสริมทัพให้ทางยามาโตะด้วย

yamato 2202 teresa
เทเรซ่า พลังงานที่เรียกให้ยามาโตะกลับไปกอบกู้วิกฤติอีกครั้ง

Yamato 2202 เล่าเรื่องเป็นสูตรสำเร็จ สร้างปมคลายปมขมวดไปสู่บทสรุปที่น่าจะดูดีงามยิ่งใหญ่ตามท้องเรื่องทว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือเสน่ห์จากภาคแรกที่หายไปนั่นคือมิติของตัวร้ายหรือตัวละครสมทบที่เข้ามาใหม่ในภาคนี้ เราไม่ได้มีโอกาสเห็นการสำรวจตัวละครเหมือนภาคแรก เมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น คนดูไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกับตัวละครเหล่านั้นเพราะเราไม่รู้จักภูมิหลังของพวกเขาดีพอ พวกเขาแค่เข้าฉากมาเพราะบทส่งมาให้แล้วจากไป บทพูดหรือท่าทางคล้อยตามตามที่ถูกออกแบบไว้แต่ความคิดความอ่าน เบื้องลึกของพวกเขานั้นจางหายไปพอตัวหากเทียบกับสิ่งที่ภาคแรกได้ทำไว้



เส้นเรื่องลงประเด็นอื่นๆ ที่ยังไม่เคยลงในภาคแรก ภาคแรกมีความความสมานสามัคคีของชาวโลกบนเรือยามาโตะที่มีภารกิจกอบกู้โลกเหมือนกัน ในขณะที่ครั้งนี้มันมีการย้ายฝั่ง การทรยศ นกสองหัว การเล่นกับจิตใจตัวละครว่าความรักของสิ่งมีชีวิตช่างเป็นเรื่องแสนเปราะบางและเป็นจุดอ่อนที่ซอร์ดาร์ (Zwordar) ตัวร้ายในภาคนี้หยิบยกมาท้าทายฝั่งโคได คุณจะตัดสินใจเด็ดขาดได้อย่างไรถ้ามันมีความรักมาค้ำคอ จะยอมเป็นคนเหนี่ยวไกเพื่อที่จะเสียสละสักอย่างไหมหรือจะเป็นผ้าขาวตลอดไป ประเด็นที่เล่นช่างสอดคล้องกับชื่อภาค “นักรบแห่งรัก” ซะเหลือเกิน

yamato 2202 screenshot
ภาระที่โคไดต้องรับผิดชอบมากขึ้น เค้าจะแบกรับมันไว้ได้รึเปล่า ?

แต่ถึงกระนั้นเรารู้สึกการตัดสินใจของตัวละครมันดูละค๊อน ละครไปหน่อย อาจเพราะเนื้อเรื่องที่อิงจากต้นฉบับเก่าซึ่งบทสมัยนั้นมันจะมีกลิ่นเลี่ยนๆ คุณธรรมหน่อยล่ะนะ จึงไม่ค่อยแปลกใจหากตัวละครจะตัดสินใจแบบนี้ แค่เมื่อนำมาดูในยุคสมัยนี้มันทำให้คนดูอินได้น้อยไปหน่อย มันดูไม่สมจริง 5555

แม้ว่าภาค 2202 ที่เป็นหนังจะถูกหั่นมาฉายในทีวีเป็น 26 ตอนเท่ากับของภาคแรกเลยแต่ว่าการเกลี่ยบทระหว่างตัวละครหลัก ตัวละครสมทบนั้นไม่สมดุลเลย ตัวใหม่ก็ไม่ค่อยรู้จัก ไม่ชวนเอาใจช่วยเท่าไหร่ ตัวร้ายไม่เล่าถึงที่มาที่ไป รู้แค่ว่ามันร้ายกับมีแผลใจในอดีตทำให้ไม่อยากเชื่อใจใครเท่านั้น มิติผิวเผินกว่าตัวร้ายภาคแรก เดสเลอร์ (Dessler) เป็นเท่าตัว แม้แต่โทโกะ นกสองหัวที่แฝงตัวเข้ามาในยามาโตะที่ดูจะมีมิติเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดก็ไม่ได้ลงรายละเอียดนัก เล่าภูมิหลังของเธออย่างผ่านมาผ่านไป

ข้อนึงที่ภาคนี้ทำได้เด่นชัดคือ เจ็บจริงตายจริง ภาคแรกเราๆ คงรู้สึกว่าทุกตัวละครมันติดสกิล Luck เต็มหลอดกันหมดแต่ภาคนี้ตายเป็นตาย ตายเป็นโขยงด้วยนะ นี่ไปสอดคล้องกับข้อข้างบนที่บอกว่ามิติตัวละครตื้น นั่นเพราะเมื่อมีใครตาย เรายังไม่รู้สึกอินอะไรกับการตายของเค้าเลย ดูเป็นตัวละครที่ใช้แล้วทิ้งจริงๆ T_T ว่าแล้วภาค 2202 ก็จบไปโดยที่ไม่สร้างความจดจำอะไรให้เราเป็นพิเศษนอกเหนือจากเนื้อเรื่องที่เดินหน้าต่อกับตัวละครที่เข้ามาและจากไป



ใบปิดภาพยนตร์ Yamato 2205 ที่แบ่งฉายสองตอน
คะแนน (7/10)

Yamato 2205 ภาค Take Off/STASHA—ทะยานบิน ! / สตาช่า

ภาคต่อยังคงใช้ Timeskip 3 ปีเช่นเดิม หลังจากที่เรือ Yamato ออกผจญภัย ปราบจักรวรรดิ์กัทลันติสสำเร็จ โคไดและยูกิที่ติดในห้วงมิติได้รับการช่วยเหลือจากฉันทามติของชาวโลกแลกกับการสูญเสียห้วงมิติเวลา วิทยาการอันล้ำค่า การสูญเสียนั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจใครหลายคนและสร้างแรงแค้นให้กับตัวละครใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทในภาคนี้ ไอ้หนุ่มถือปืนบนใบปิดน่ะแหละ

เนื้อเรื่องภาคนี้เกิดจากดาวกามิลัส เพื่อนรักชาวโลกที่สภาพดาวใกล้จะตายอยู่แล้วดันโดนตัวร้ายชุดใหม่เข้ามาทำร้าย ก่อเกิดเป็นชนวนที่ทำให้ยามาโตะต้องเร่งเดินทางมาเพื่อเข้ามาช่วยพันธมิตร

ภาค 2205 กลับไปโฟกัสกับชุดตัวละครภาคแรกที่เราๆ แสนคิดถึงอีกครั้ง สตาช่า,ยูริช่า และเดสเลอร์(เจ๊เมลด้าโผล่มาแว็บๆ ด้วย กรีซซซซซ) จึงทำให้ภาคนี้เป็นเหมือนการคืนสู่เหย้า โดยตัวละครเหล่านี้ได้รับอานิสงส์การเล่ามิติตัวละครในภาคแรก นั่นพอช่วยทุเลาปัญหาตัวละครตื้นที่เราประสบกันในภาค 2202 อย่างไรก็ตาม ตัวละครสดใหม่ที่ชูมาให้เด่นประจำภาคนี้เช่น ริวสุเกะ โดมอน ก็ยังไม่คงถูกเล่าภูมิหลังลึกซึ้งเช่นเดิม(รวมถึงเพื่อนๆ ของโดมอนด้วย) แถมภาคนี้เป็นภาคสั้นๆ ที่เหมือนเป็นสะพานทอดไปยังภาคถัดไป 3199 จึงมีเวลาฉายแค่ทีวี 8 ตอน(หนังใหญ่ 2 ตอน) เวลาปูบทน้อยกว่าภาคที่แล้วอีก ! ทำให้การสำรวจตัวละครยิ่งบอบบางไปกว่าเดิมและมีแต่การเดินเส้นเรื่องหลักโดยใช้อานิสงส์ของตัวละครชุดเก่าจากภาคแรกเท่านั้น

yamato 2205 screenshot
ความสัมพันธ์ของดาวอิสกันดาร์และกามิลัสที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด

ภาคนี้เดินเรื่องไวมาก ! มีแค่ 8 ตอนแต่เรื่องเดินเหมือนมีสองซีซัน 5555 การเล่าภูมิหลังของดาวกามิลัสและอิสกันดาร์ ความผูกพันระหว่างสองดาวแต่อดีตกาลและการเฉลยปมที่คาดไม่ถึงเป็น Infodump ที่ยัดใส่คนดูเข้ามาดื้อๆ จนย่อยแทบไม่ทันทำให้คนดูอาจตามไม่ทันระหว่างการดูได้

เนื้อเรื่องในภาคนี้สามารถเล่าขยายให้เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นจะต้องอัดลงมาภายใน 8 ตอนก็ได้อาจจะทำเป็นหนัง 3 ตอนจบหรือเป็น TV Series 12-13 ตอน อย่างน้อยขอเวลาอีกสัก 3-5 ตอนให้ค่อยๆ เล่าภูมิหลังของดาวสองดวงมากขึ้นซึ่งอาจทำให้คนดูมีเวลาได้ตกตะกอนปมต่างๆ และมีความรู้สึกร่วมกับตัวละครมากกว่านี้ก็เป็นได้



เมล็ดพันธุ์ที่ถูกส่งต่อมาให้ยูกิดูแล

มิติตัวร้ายยังบางกรอบเช่นเดิม ของ 2202 อาจดีกว่าหน่อยตรงที่มีโควต้าตอนเยอะกว่าเลยพอมีเวลาให้เล่าปมของซอร์ดาร์แต่ตัวละครใหม่นี้ เมลดาซ (Meldarz) โผล่มาบังคับบัญชาสั้นๆ ในยานผ่านไปผ่านมา ยังไม่มีบทอะไรมากเท่าไหร่ ดูทรงตัวละครชุดนี้น่าจะไปปรากฏตัวต่อในภาค 3199 เดี๋ยวเราคงมีโอกาสได้เห็นภูมิหลังตัวร้ายกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นก็ได้

จนถึงบัดนี้ เดสเลอร์เป็นตัวร้ายจากภาคแรกที่ล่าสุดเป็นพันธมิตรกับชาวโลกไปแล้วแต่เค้าก็ยังคงออร่าตัวร้ายที่มีมิติและมีสง่าราศีที่สุดเมื่อเทียบกับซอร์ดาร์และเมลดาซในสองภาคหลัง (จะรอดูภาคถัดไปนะ เผื่อเมลดาซจะดูดีขึ้นมาบ้าง 5555)

ที่จ้อจี้คือมีคนญี่ปุ่นทำคลิปเปรียบเทียบเมลดาซ ทั้งภาคเก่าและรีเมคไว้เรียบร้อย เค้าบอกเค้าชอบบุคลิกเมลดาซภาคเก่ามากกว่า เอาตุ๊กตาทองไป๊ ! 55555 ว่าแต่เมลดาซภาครีเมคหน้าเหี่ยวจัง 5555

เรารู้สึกว่า 2205 เป็นเหมือนภาคคืนสู่เหย้าและสั่งลาตัวละครชุดเก่าเพราะเน้นความสัมพันธ์ของสตาช่ากับเดสเลอร์โดยเฉพาะประกอบกับฉากจากลาของโคไดและเดสเลอร์ในตอนท้ายที่ชวนให้บรรยากาศว่าจะไม่ได้พบเค้าอีกแล้วเลย

จะได้เจอกันอีกมั้ยนะ เดสเลอร์ ?

การเดินหน้าของตัวเรื่องรวมๆ ทั้งสองภาคไม่ได้มีการเดินเรื่องที่ประดักประเดิดหรือมี Plot Hole ที่ขี้เหร่ชวนอิหยังวะสักเท่าไหร่เพราะเส้นเรื่องไม่ได้เล่นท่ายากเหมือนอนิเมแฟนตาซีไซไฟบางเรื่องที่พยายามใช้เส้นเรื่องและประเด็นที่ซับซ้อนจนกลายเป็นสร้าง Plot Hole ในตัวไป ทุกอย่างเดินเป็นเส้นตรงเข้าใจง่าย ที่จะโดนหักคะแนนก็เป็นเรื่องบทที่ดูละครๆ กับมิติตัวละครที่ไม่สมดุลแบบที่เรากล่าวไว้ด้านบนมากกว่า พอมันเอามารวมทั้งหมดมันจึงกลายเป็นเพียงอนิเมที่เน้นแต่เดินเรื่องแต่ไม่มีสีสันเลยดูเป็นจืดไปซะดื้อๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำใสที่ลืมไปว่าลูกค้าสั่งต้มยำ (ฮา)

งานภาพ CG และเพลง ดนตรีประกอบ

งานภาพไม่ต้องห่วง ทั้งสองภาคถูกทำฉายบนโรงภาพยนตร์ก่อนหั่นออกมาเป็นตอนทีวี ดังนั้นเรื่องภาพหรือ CG ออกมาดีแน่นอน

เราไม่ได้สะดุดกับเพลงประกอบอะไรมาก หาฟังอัลบั้มแยกบน Spotify ก็ไม่มี ดนตรีที่จับได้ส่วนมากมันก็มีแค่ Theme Song ของเรื่องที่ remix เป็นเวอร์ชั่นต่างๆ ไปเรื่อยๆ แต่เพลงปิดภาค 2205 ดีมาก ร้องโดย Ayaka Hirahara มีแต่ TV Size แล้วชั้นจะหาฟังเวอร์เต็มๆ ได้ที่ไหนก่อน 5555

เพลงปิด Yamato 2205
คะแนน (7/10)

สรุปรีวิว Yamato 2202 + 2205

สำหรับแฟนฮาร์ดคอร์ของซีรีย์เรือรบ Yamato มันเป็นเรื่องที่ยังคงดูสนุกและมีเนื้อเรื่องที่คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วไม่อืดอาดแต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าสำหรับคนที่คาดหวังจากมาตรฐานที่มันทำไว้ดีในภาคแรก เสน่ห์ของซีรีส์หายไปพอสมควรจนอาจรู้สึกผิดหวังได้ มีหลายจุดและช่องว่างที่มันสามารถเอามาอุดให้ดีกว่านี้ เรียกว่ามีแฟนบางส่วนถึงกับขยาดกับคนคุมเรื่องคนใหม่ Fukui ที่มาทำภาค 2-3 นี้ 5555 ส่วนตัวเราคงไม่ได้เห็นงานที่มีการสำรวจตัวละครเยอะเหมือนภาค 2199 อีกแล้ว

ติไปแต่ก็คงจะตามไปจนถึงที่สุดละนะมาถึงขั้นนี้แล้วนี่นา แฮ่ ! ฉาก Post Credit ของ 2205 ปีการปูปมต่อยอดไปภาค 3199 ด้วย รอบนี้มันจะ Timeskip ไป 100 ปีเลยเรอะ เราๆ เฝ้าดูกันต่อไปว่าทิศทางการเดินเรื่องยามาโตะภาค 4 จะสามารถแก้เกมส์ได้หรือไม่ สำหรับเราตอนนี้ก็แค่เฝ้าดูว่าซีรีส์นี้จะไปถึงบทสรุปใดแต่คงไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษเหมือนภาคแรกแล้ว ที่สำคัญ..ขอโควต้าตอนเยอะๆ หน่อยสิคุณ 55555

yamato 2202 2205 review
เตรียมตัวเข้าสู่บทถัดไป 3199 !

หาดูเรื่องนี้ได้จากไหน ?

แบบลิขสิทธิ์จังๆ ยังหาดูในไทยไม่ได้ง่ายๆ จะมุดไปดูของสตรีมมิ่งถูกลิขสิทธิ์นอกยังกันซีนเยอะเลย (ค่า subscription เค้าไม่รับหักบัตรเครดิตไทย) ดังนั้นก็ตามทางสะดวกของแต่ละคนละกัน


จบกันไปแล้วกับการรีวิวยามาโตะสองภาครวดและพบกันใหม่ในรีวิวภาค 3199 หากใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์กดสับตะไคร้ (มีให้สับด้วยเรอะ 555) และติดตามผลงานรีวิวอื่นๆ ของเราได้ในบล็อกนี้ ดูคอนแทคท์ช่องทางอื่นเพิ่มเติมได้ที่ About Me เด้อออ


บทความรีวิวอนิเมะอื่นๆ

🔑 9 (2+7) เพลง อนิเมะที่ดนตรีแปลกในวงการ Anisong แถมติดหูอีกต่างหาก

🔑 รีวิวอนิเม Tsuki to Laika to Nosferatu ส่งคนไปอวกาศมันธรรมดาไป ส่งแวมไพร์ไปดีกว่า

🔑 รีวิว อนิเม Wonder Egg Priority คอนเซปต์สภาวะจิตอันทะเยอทะยานท้าทายที่สุดท้ายก็ล้มไม่ลุก

🔑 Medalist มังงะฟิกเกอร์สเก็ตเรื่องล่าสุดแห่งปี 2020 รอคอยเซตติ้งแบบนี้มานานแล้ว !

🔑 ติดตามรีวิวอนิเมะอื่น ๆ ได้ใน https://gleegmjournal.com/category/pop-culture/anime/

🔑 Find me in: Anilist | MyAnimeList

🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี

รีวิว yamato 2202 2205

Loading

GleeGM

My journal on personal life and interests including Data Analytics 📈, Books 📚, Music 🎶, Basketball 🏀, Figure Skating ⛸, Anime, Film 📺, Tarot, Lenormand, Uranian Astrology🔮

You may also like...