Ergo Proxy รีวิว อนิเมะไซไฟ ยัยสโมคกี้อายกับนายจืดชืดในโลกดิสโทเปีย + อธิบายตอนจบ
ยังอยู่ในหมวดอนิเมะไซไฟกับ อนิเมะ Ergo Proxy ชื่อหัวบล็อกเกรียนมากกกก อยากจะเรฟกับชื่อหนัง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม เห็นว่ามันเข้ากับเรื่องนี้พอดีที่นางเอกมีคาแรคเตอร์ทาขอบตาสีฟ้า (เบ้าหน้าเธอนึกว่าหลุดมาจากนักร้องวง Evanescence) และพระเอกเรามีเบ้าหน้าจืดจางแสนเจี๊ยมเจี๋ยม โดยเนื้อเรื่องจริง ๆ นี้ไม่ได้หวานชื่นไรเหมือนชื่อบล็อกเลยจ้า 55555
สำหรับเราตอนนี้ยังเป็นช่วงเก็บกวาดอนิเมะสายไซไฟสายเข้มข้นเช่นเคย จากที่คราวก่อนดู The Big O ไป (เคยทำรีวิว The Big O ไว้ อ่านที่นี่) หรอบนี้ได้ฤกษ์ หวยมาตก Ergo Proxy อนิเมะแนวไซไฟที่คนดูต่างเชิดชูว่ามันเป็นอนิเมะดิสโทเปียน้ำดี มีทั้งหมด 23 ตอนจบ ผลิตโดยสตูดิโอ Manglobe ที่ผลงานเรื่องสุดท้ายของการผลิตคือ GANGSTA ก่อนประกาศล้มละลายบริษัทไป โดยเซตติ้งของเรื่องหรือการออกแบบตัวละครมีกลิ่นอายตะวันตก อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนดูฝรั่งชื่นชอบเป็นพิเศษก็เป็นได้ ไม่อารัมภบทกันไปนานกว่านี้ เริ่มกันเลยดีกว่า
สารบัญ
เนื้อเรื่องย่อ
ในเมือง Romdeau (รอมโด) เมืองที่มีลักษณะโดมแก้วครอบไว้ มนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกับหุ่นยนต์รับใช้ AutoReivs (ออโต้เรฟ) อย่างปกติสุข นางเอกของเรา Re-L Mayer (รีเอล เมเยอร์) เด็กเส้นใหญ่ ลูกสาวนายกประจำเมือง เธอทำหน้าที่คล้าย ๆ ตำรวจสืบสวน คอยตรวจตรา สืบคดี ดูแลความปลอดภัยในเมือง ในขณะนั้นมีไวรัสแพร่ระบาดในกลุ่มออโต้เรฟชื่อ Cogito Virus (คอกิโต้ไวรัส) หากหุ่นยนต์ตัวไหนโดนไวรัสจะทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่เชื่อฟังคำสั่งบ้าง มีความคิดเป็นของตัวเองบ้าง ก้าวร้าว ทำตามใจตนเอง ไล่ทำร้ายคนไปทั่ว หรืออาจจะกลายเป็นร่างหุ่นพนมมือสวดมนต์ไปเลย ระหว่างที่นางเอกกำลังว้าวุ่นอยู่กับเคสโรคระบาดในหุ่นยนต์ จู่ ๆ เธอได้ไปพานพบกับสิ่งมีชีวิตแสนแปลกประหลาดที่ถูกขนานนามว่า Proxy (พร็อกซี่) ซึ่งสิ่งมีชีวิตสิ่งนั้นดันมาพัวพันกับผู้อพยพผู้หนีตายสด ๆ ใหม่ ๆ ชื่อ Vincent Law (วินเซนต์ ลอว์) จากเมือง Mosk (มอสก์) ที่เพิ่งถูกทำลายไป การพานพบผู้มาเยือนใหม่นี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
ความรู้สึกหลังดูจบ
อนิเมะทั้งหมด 23 ตอนแต่มันมีปัญหาเดียวกันกับ The Big O เลยนั่นคือช่วงประมาณ 70% แรก เรื่องเดินได้อย่างทรง ๆ นิ่ง ๆ อธิบายทีละส่วนทีละมิติตัวละครอย่างย่อยง่ายเข้าใจง่าย แต่เมื่อเข้าช่วงประมาณ 5 ตอนสุดท้าย ทุกอย่างแทบจะเฉลยมาให้หมดราวกับเพิ่งนึกได้ว่าโควต้าตอนกำลังจะหมดแล้ว เหมือนคนดูที่จากเดิมค่อย ๆ เคี้ยวข้าว จู่ ๆ โดนจับยัดข้าวให้กลืนไปให้ก่อนหมดเวลาพักแล้วก็ไปท้องอืดทีหลังเนี่ยแหละ มาเล่นเล่ายัดท้ายเรื่องแบบนี้ คนดูปรับตัวกันไม่ทัน พอดูจบมันเลยทำให้คนดูต้องมานั่งเรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ ทำความเข้าใจถึงความพูดของตัวละครใหม่ ซึ่งความจริงมันสามารถทำให้คนดู ค่อย ๆ ซึมซับเนื้อเรื่องได้อย่างลื่นไหลกว่านี้ได้ไง
ส่วนพระเอก Vincent ผู้ที่อพยพมาจากมอส ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นจำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็โผล่มาในเมืองรอมโด มาเจอ Re-L เป็นผู้ชายที่เบ้าหน้ายังกะตัวประกอบสุดน่าสงสัยแถมมีตาตี่ ๆ จนคนดูมันต้องเอะใจแน่ ๆ ว่าหมอนี่จะมีลุคเปิดตามั้ย (เหมือนงินใน Bleach 555) การ์ตูนหลายเรื่องมันชอบมีคาแรคเตอร์แบบนี้เยอะ สงสัยจนไปลองค้นใน Google ยังไม่ทันไร โดนสปอยเลย 555555 กะแล้ว ตานี่มันไม่ใช่ตัวประกอบจืดชืด !
และชุดที่ Vincent ใส่ มันใส่ยูนิฟอร์มชุดส้ม (เครื่องแบบของหน่วยกำจัดออโต้เรฟ) นี้ทั้ง 23 ตอนเลยรึไง ให้ตายสิ ! ถึงบางครั้งจะมีซีนที่ใส่เสื้อกล้าม แต่สุดท้ายไม่วายมันจะกลับมาใส่เสื้อชุดส้มอีก เดินทางไปหลายที่หาชุดใหม่ใส่ก็ได้มั้ยเอ็ง !! 555555
Ergo Proxy ดำเนินเรื่องโดยมี 3 ตัวละครหลักได้แก่ Re-L, Vincent นายเจี๋ยมเจี้ยมคนนี้และหุ่นยนต์ออโต้เรฟตัวน้อยชื่อ Pino (พีโน่) หุ่นยนต์ที่ติดเชื้อ Cogito Virus เข้าไป แม้มันจะเป็นไวรัสที่ทำให้หุ่นยนต์มีชีวิตจิตใจ ทำให้เกิดความคิดของตัวเอง นั่นไม่ได้แปลว่าจะทำให้เกิดความคุ้มคลั่งให้ฆ่าคนได้เสมอไป แรกเริ่มเดิมที Pino เดิมทีเป็นหุ่นยนต์ตัวแทนลูกสาวของหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยประชาชน Raul Creed (ราอูล ครีด)
ทั้งเรื่องค่อย ๆ เล่ารายละเอียดของเซตติ้งเรื่องราว หลังจากนั้นจะมีการแยกมุมมองตัวละครเป็น 2 ทางคือฝั่ง Pino + Vincent ที่ดันกระเด็นออกไปใช้ชีวิตอยู่นอกเมืองโดม และ Re-L ที่ยังคงอยู่ในเมือง โดย ณ เวลาหนึ่ง จะมีเหตุการณ์ให้ทั้งสองฝั่งได้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง และเพื่อค้นหาคำตอบถึงตัวตนที่แท้จริงของ Vincent. Re-L กับ Vincent จึงต้องออกเดินทางกลับไปยังเมืองที่ Vincent จากมา นั่นคือเมือง Mosk ในระหว่างนั้น เนื้อเรื่องแต่ละตอนมีการสอดแทรกเหตุการณ์แฝงปรัชญา การใช้ชีวิตสไตล์อนิเมะไซไฟ สำหรับคนที่สงสัยว่า Ergo Proxy คืออะไร เกี่ยวอะไรด้วย ทำไมถึงเป็นชื่อเรื่องนี้ คนดูจะได้คำตอบก็ปาไปนู่นท้ายเรื่องแล้วกว่าทุกอย่างจะปะติดปะต่อกัน แต่ต้องใช้เวลาย่อยพอสมควร เพราะอย่างที่กล่าวไว้ด้านบนว่ายัดเนื้อหาช่วงเฉลยพอมาในเวลาอันสั้นพอตัว
ในอนิเมะตัวนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้มีความปรัชญาจ๋า ดูยากในเชิงที่ต้องแกะ Message เนื้อชั้นใน มันค่อยๆ เล่าที่มาในแต่ละส่วน ค่อย ๆ ปอกเปลือกปมที่มัดไว้แต่ละตัว ตอนของในเรื่องนี้มีแทรกตอนสุดติสที่อาศัยจิตวิทยามาก ๆ ใส่การสลับตัดต่อลำดับภาพให้ชวนงง ใส่สถานการณ์ what if การเข้าไปเล่นในความฝันของตัวละคร ถ้าไม่ตั้งใจดูก็อาจจะงงไปดื้อ ๆ ได้เลย
บางตอนสุดโต่งมาก ๆ เช่นการใช้เทคนิค Exposition (Info Dump—การเปิดโปงเรื่องราวต่างๆ โดยโยนข้อมูลชุดใหญ่ทิ้งลงมาใส่คนดู) ในตอนที่ 15 ที่มันเปลี่ยนเรื่องราวจากการเดินทางของ Re-L, Vincent ให้เดินเรื่องผ่านการเล่นเกมส์โชว์เฉย อ้าวตอน 14 มันยังอยู่บนเรือบินอยู่เลย ทำไมมาตอนนี้ มันวาร์ปมาเล่นเกมส์โชว์ได้ล่ะเนี่ย ซึ่งคำถามในเกมส์โชว์มันไม่ใช่การสุ่มมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป ทั้งหมดคือเบาะแส เป็นเกล็ดขนมปังที่ปูไปยังเซตติ้งตั้งต้นของเรื่อง ถ้าคนดูค่อย ๆ เก็บเบาะแสเหล่านี้นำมาปะติดปะต่อจะเข้าใจได้มากขึ้นว่ากว่าที่จะมาเป็นเมือง Romdeau ทำไมแต่ละเมืองถึงครอบโดม ทำไมโลกถึงปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ทุกอย่างมีแฝงไว้ในคำถามของเกมส์โชว์หมด จะว่าเป็นกลการเล่าที่แยบยลก็ว่าได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบก็คงแขยงการเล่าเรื่องแบบนี้จริง ๆ 5555
หลังจากดูตอนที่ 15 มันทำให้ทุกอย่างที่คนดูรับรู้กันมาถึง 14 ตอนที่แล้วทราบว่า มันเป็นแค่หน้าเค้กที่ฉาบไว้ แต่ปมตอนที่ 15 ทำให้คนดูปรับความเข้าใจใหม่ว่า อะไรคือ Proxy อนาคตของโลกใบนี้ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
อธิบายตอนจบ อนิเมะ Ergo Proxy ตามการตีความของเราซึ่งอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
สำหรับคนที่งง ลองมาดูกันว่าเข้าใจใกล้เคียงกับเรามั้ย 55555 เอาจริงเราไม่ได้เข้าใจทั้งหมดในการดูรอบเดียวหรอก ต้องกลับไปกอฉากที่มันเฉลยเร็ว ๆ และอ่านกระทู้พูดคุยของที่อื่นประกอบด้วย
ด้วยเหตุนี้ Vincent จึง
Raison d’etre เหตุผลในการมีชีวิต อีกหนึ่งคอนเซปต์ที่เรื่องนี้ค่อนข้างเน้น
ในเรื่องนี้ได้มีการใช้แนวคิด Raison d’etre (เหตุผลในการมีชีวิตอยู่) เนื่องจากในสังคมปัจจุบัน มนุษย์ไม่สามารถสืบพันธุ์ตามวิธีธรรมชาติได้ ทำให้ในโดมต้องมีระบบทางชีวภาพเรียกว่า WombSys ระบบผสมเทียมเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ ๆ ขึ้นมาและเพื่อไม่ให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นรู้สึกว่างเปล่าในการใช้ชีวิต จึงได้มีการมอบหมายภารกิจหรือเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ให้ เช่น Daedelus ที่ทั้งชีวิตเค้าอุทิศชีวิตให้กับการวิจัย หลงหัวปักหัวปำกับการวิจัย Monad Proxy ด้วย หรือ Iggy — AutoReivs ของ Re-L ทั้งชีวิตเค้าคอยเป็นผู้ติดตาม Re-L มาตลอด ต่อมาเมื่อ Re-L เริ่มผละเค้าห่างออกไป Iggy เริ่มสูญเสียตัวตนของเขาและเริ่มตั้งคำถามถึงการมีชีวิตอยู่ ในเรื่องนี้จะมีการสอดแทรกหลักการนี้มาเป็นระยะ ๆ เพราะหลาย ๆ ตัวละครต่างมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ เมื่อเหตุผลเหล่านั้นได้จากหายไป สิ่งยึดเหนี่ยวที่คอยหล่อเลี้ยงพวกเขามาเพื่อใช้ชีวิตในแต่ละวันจึงได้พังทลายลงเช่นกัน
งานภาพ
อ่า…พูดถึงหัวข้อนี้ อย่าไปซีเรียสเรื่องงานภาพหรือจับผิดงานเผามากเลย เพราะเผาจริงจัง ! เผาเยอะ ! 🤣 ซีนที่สวย ๆ ก็มี แต่งานทำลวกก็ออกมาเยอะ สรุปคือมีงานเผา ๆ ที่ กระโดดขึ้นมาจนไม่ต้องเพ่งมากก็เห็นแต่นั่นไม่ใช่จุดขายหลักของเรื่องนี้อยู่แล้วล่ะนะ
งานเพลง
หาฟัง Original Soundtrack ไม่ได้เลยแฮะ ได้ฟังแต่เพลง Opening, Ending ซึ่งงานเพลงคุมกลิ่นอายตะวันตกจ๋า ๆ เหมือนกัน เพลง OP ได้วงญี่ปุ่น Monoral มาร้องเพลง Kiri ซึ่งเป็นเนื้อภาษาอังกฤษทั้งเพลง (กับเนื้อเพลงอันน้อยนิด) ส่วนเพลง Ending ได้เพลงวงร็อคจากเกาะอังกฤษอย่าง Radiohead มาประกอบเลย (น่าจะไปขอเพลงเค้ามาประกอบนะ ไม่ใช่มาร้องใหม่ให้กับอนิเมะ) จากความชอบเรา เราเฉย ๆ กับเพลง ED ล่ะ มันมีกลิ่นอายฟังแล้วลอย ๆ เสียงลากหอน ๆ เหมือนเพลง Analyze ของ Tom Yorke และพอเข้ากลาง ๆ เพลงแล้วมีการสลับอารมณ์เพลงด้วย เหมือนเป็นองค์ต่าง ๆ ของเพลง นึกว่าฟังงาน Kpop เลย ฮา แต่เราชอบใจเพลง Kiri มาก ๆ เลยล่ะ
คะแนน (7/10)
สรุป
อนิเมะ Ergo Proxy เป็นอีกหนึ่งงานไซไฟสายปรัชญาที่ประสบปัญหาคล้ายกับ The Big O นั่นคือการเดินเรื่องที่ไม่สม่ำเสมอ บทจะเฉลยก็ยัดเข้ามาดื้อ ๆ จนคนดูย่อยลำบาก แม้จะมีคอนเซปต์ปรัชญาแต่ก็ไม่ได้ปรัชญาจ๋าประเภทเดินเรื่องน่าเบื่อมีแต่ตัวละครแลกบทสนทนาเชิงลึกกันอย่างเดียว ตัวทีมงานเองกล้าเล่นกับโครงเรื่องสุดโต่งที่หากนำไปเล่าให้ใครฟัง คงจะแปลกหูแปลกตาไม่ใช่น้อยแลกมากับงานภาพที่ต่ำกว่าเกณฑ์ไปบ้าง สำหรับใครที่มองหางานสายไซไฟที่อาศัยการขบคิดเยอะ อยากลองเนื้อเรื่องแปลก ๆ ดูจบแล้วต้องมานั่งคิดทบทวนเพิ่ม นี่เป็นอีกเรื่องที่คุณควรได้ลิ้มลอง !
ดูเรื่องนี้ได้จากไหน ?
มีให้ดูบน Netflix คลิก
References:
https://ergoproxy.fandom.com/wiki/Vincent_Law
https://ergoproxy.fandom.com/wiki/Proxy_One
https://ergoproxy.fandom.com/wiki/Raison_d%27%C3%AAtre
บทความรีวิวอนิเมะอื่นๆ
🔑 9 (2+7) เพลง อนิเมะที่ดนตรีแปลกในวงการ Anisong แถมติดหูอีกต่างหาก
🔑 Deca-Dence รีวิว อนิเม เหมือนดูยำรวมมิตรแต่เซอร์ไพรส์เทคนิคเล่าเรื่องแฮะ
🔑 [รีวิว] อนิเม The Big O ที่เค้าว่าดูยาก นี่มัน Batman เวอร์ชั่น Super Robot ชัดๆ+อธิบายตอนจบ
🔑 ติดตามรีวิวอนิเมะอื่น ๆ ได้ใน https://gleegmjournal.com/category/pop-culture/anime/
🔑 Find me in: Anilist | MyAnimeList