รีวิว เมาส์ Ergonomic ทำงานเพื่อสุขภาพ เมาส์แนวตั้ง (Vertical) vs เมาส์ลูกกลิ้ง (Trackball) แบบไหนดีกว่า !
เดี๋ยวนี้เรื่องของสุขภาพเวลาทำงานเป็นสิ่งที่ หลาย ๆ คนให้ความสำคัญกันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง Work From Home อุปกรณ์ที่เราต้องทำให้สะดวกสบายตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic) ถนอมร่างกายไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ แต่ละอย่างก็ราคาแพง ๆ ทั้งนั้น สิ่งที่ราคาพอจับต้องได้มากกว่าชาวบ้านที่สุด หนึ่งในนั้นก็คือ เมาส์ และเราซึ่งส่วนตัวมี Pain Point กับเรื่อง Ergonomic ปวดทั้งตัวจนผ่านการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ชีวิตง่ายขึ้นแทบยกแผง ลองมันทุกราคา แน่นอน เมาส์ Ergonomic ก็เป็นสิ่งที่ไม่พ้นที่เราจะลองเช่นกัน โดยเมาส์ Ergonomic มันมีสองประเภทคือเมาส์เแนวตั้ง รูปทรงเอียง ๆ เพื่อลดการบิดข้อมือและเมาส์แบบ Trackball ที่เราไม่ต้องขยับมือเลย ใช้นิ้วโป้งในการควบคุมเคอร์เซอร์
ดังนั้นบทความนี้เราจะมารีวิวถึงเมาส์ 2 ยี่ห้อ 2 สไตล์ด้วยกัน 2 รุ่นว่าไม่มีข้อดีไม่ดีไงจากประสบการณ์ที่ใช้มาร่วมหลายปี
สารบัญ
ผู้ท้าชิง 1: เมาส์ Ergonomic ทรงแนวตั้ง (Vertical Mouse): Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse
เริ่มที่เมาส์ประเภทแรกก็คือเมาส์โค้ง ผู้เข้าชิงแรก Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse เกริ่นทฤษฎีตามหลัก Ergonomics คือ โดยทั่วไปเมาส์ที่เราใช้กันจะเป็นเมาส์ทีลักษณะหันตรง นั่นทำให้เราหันข้อมือตั้งตรง เขาว่ากันว่าการที่เราอยู่ในอิริยาบถนี้มันจะเป็นการบิดข้อมือให้ผิดธรรมชาติกล้ามเนื้อข้อมือซึ่งทำให้ข้อมือล้าง่ายขึ้น ตัวเมาส์นี้เลยออกแบบทรงโค้งเพื่อรองรับธรรมชาติองศาข้อมือมนุษย์เรา นิ้วก้อยของเราจะชิดกับพื้นผิวไปเลย
Source: https://www.nomorepainergonomics.com.au/blogs/no-more-pain-ergonomics/70889157-whats-the-difference-between-an-ergonomic-mouse-and-a-normal-computer-mouse
เรียกให้ถูกต้องตามเทคนิค Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse จะไม่ได้ Vertical สุดโต่งเหมือนเมาส์ยี่ห้ออื่น ๆ หรอกนะ มันมีความพันธุ์ทางเป็น Handshoe Mouse เพื่อลดจุดบอดตรงท่อนแขนของ Vertical Mouse ออกไป
Source: https://www.ergodirect.com/17590-hippus-handshoe-left-hand-mouse.html
การปรับตัว
ปรับตัวง่ายกว่า Trackball เพราะเปลี่ยนวิธีการวางมือเท่านั้น แต่การขยับข้อมือยังเหมือนเดิม ใครที่เพิ่งมาเริ่มใช้แล้วไม่ชินก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะเราคุ้นเคยกับเมาส์รูปทรงเดิม ๆ มาหลายสิบปีนี่นา เราเองก็เหมือนกัน ตอนแรกไม่ชิน แต่พอเริ่มใช้จนชิน กลายเป็นว่าถูกใจแบบนี้ไปซะแล้ว สบายข้อมือดี 55555
ประสบการณ์ส่วนตัวของเรากับเมาส์ Microsoft Sculpt Ergonomic เราเคยใช้เมาส์ประเภท Trackball มาก่อน (จะพูดถึงในย่อหน้าถัดไป) เลยชินกับการเอียงข้อมือมาก่อนแล้ว ไม่ติดปัญหาหรือต้องปรับตัวมาเท่าไหร่ หลัก ๆ คือแฮปปี้กับเมาส์ตัวนี้ ทว่าหากจะพูดถึงข้อเสียก็คือ
1. เมาส์จะแถมปุ่มพิเศษคือปุ่ม back กับปุ่ม window ที่เราไม่ค่อยได้ใช้ เราชอบใช้ปุ่ม back/forward มากกว่าเวลาใช้ web browser แต่เมาส์มันแถมปุ่ม window มาให้แทน ซึ่งเราไม่ได้กดปุ่ม window บ่อยเท่าไหร่เนี่ยสิ เลยไม่ถูกใจที่สิ่งปุ่มนี้มา (ซึ่งเราสามารถใช้โปรแกรม AutoHotKey เพื่อปรับ config ให้ปุ่ม window นี้กลายเป็นปุ่ม forward ได้)
2. ช่องใส่ถ่านคับกับถ่านชาร์จของเรา(เสมอ !) เรามักใช้ถ่านชาร์จเพราะ gadget คอมเราอาศัยถ่านมากกว่าชาร์จผ่านช่อง USB เลยซื้อถ่านชาร์จมาให้คุ้มๆ ถ้าเราใส่ถ่านใช้แล้วทิ้งทั่วไปพวก Panasonic แบบนี้ใส่แล้วไม่เป็นไร ถอดเข้าถอดออกได้ แต่พอเราใส่ถ่านชาร์จไม่ว่าจะ Panasonic รุ่นชาร์จได้หรือ Energizer มันคับไปหมดเลยเนี่ยสิถอดยากมาก ถ่านพวกนี้ไปใส่เมาส์อื่นก็ไม่ติดปัญหาไม่คับเท่าใส่เจ้า Microsoft นี่เลย มันอะไรเนี่ย 55555 เมาส์แอนตี้ถ่านชาร์จเหรอ เราถึงกับต้องเขียนกำกับไว้ว่าถ่านชิ้นนี้ไว้สำหรับใส่ฝั่งไหน เพราะถ้าเอาไปใส่อีกข้างมันจะคับจนแทบถอดไม่ออก T T
3. ลูกกลิ้งดูอ่อนแอ มันดูอ่อนแอไปหน่อยดูไม่ค่อยแข็งแรงเลยมันเอียงซ้ายเอียงขวาก๊อกแก๊กก๊อกแก๊กได้
4.มันไม่ถึกตอนใช้ไปนาน ๆ ข้อนี้อ่านมาจากรีวิวมาจากต่างประเทศ ใช้ไปสักพักเมาส์เริ่มงอแงง่าย ไม่ค่อยถึก สำหรับเราพอลองใช้มา 9 เดือน ปุ่มคลิกซ้ายมันเริ่มงอแงละ โอเค รู้เรื่อง 5555 แม้ยังไม่อยู่ในจุดที่ชวนหงุดหงิดมากแต่ถ้ายังงอแงเพิ่มไม่หยุดจะเอาไปเคลมละนะ !
5. ปุ่มเมาส์ด้านซ้ายแข็ง คลิก ๆ ไป ปุ่มมันแข็งอยู่เหมือนกันนะ ใช้นาน ๆ เมื่อยนิ้ว ไม่รู้เป็นตำหนิเฉพาะตัวนี้หรือเป็นกันทั้งรุ่น
สรุปลิสท์ข้อเสียมาถึงสามข้อแปลว่ามันดีหรือไม่ดีเนี่ย ? เอาจริง ๆ คือมันเป็นข้อเสียแบบเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้เป็นข้อเสียหลัก เช่น ใช้แล้วเมื่อยข้อมือเหมือนเดิม มันเป็นจุดตะขิดตะขวงใจที่พอมองข้ามได้ เพียงแต่ถ้ามันสามารถแก้ไขจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ได้ก็จะยิ่งแฮปปี้เข้าไปอีก
ลิงค์ซื้อ เมาส์ Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse
📌 ซื้อ Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse บน Lazada คลิก
ผู้ท้าชิง 2: เมาส์ Ergonomic ทรง ลูกกลิ้ง (Trackball)
มาที่เมาส์ประเภทต่อมา Trackball เป็นเมาส์ที่เราวางมือไว้เฉย ๆ แล้วขยับนิ้วโป้งเพื่อหมุนลูกกลิ้งให้ขยับ Cursor พอ เขาเคลมว่าข้อมือเราจะเมื่อยน้อยลง แต่หลังจากที่เราใช้ตัวนี้มาราวปีหมุนนิ้วโป้งจนชินแล้ว พบว่าใช้เมาส์ประเภทนี้กลับเมื่อยกว่าเดิม อาจเพราะขนาดเมาส์ใหญ่กว่าฝ่ามือเรา มันเกร็งร้าวไปถึงสะบักเลย ยิ่งลูกกลิ้งฝืดนี่ยิ่งหงุดหงิดเลย หมุนนิ้วโป้งไปสุดยังไม่ได้ดั่งใจ 5555 แต่เพื่อนเราที่ไซส์มือพอกันก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกันแต่ไม่ยักบ่นว่าเมื่อย แล้วแต่คนละเนอะ แล้วพอหันมาใช้ Microsoft Sculpt Ergonomic ที่เป็นแค่เมาส์เอียงข้อมือเฉย ๆ แท้ ๆ แต่ชอบกว่าซะอย่างนั้น 55555 Logitech M570 ลูกกลิ้งฟ้า ๆ ตัวนี้ความจริงเลิกผลิตไปแล้ว ตอนนี้มีรุ่นใหม่ที่มาแทนชื่อว่า MX Ergo ขนาดใหญ่กว่า M570 (570 ว่าใหญ่แล้วเจอตัวใหม่นี้ไปสตั๊นเลย) และถูกอัพเกรดให้ชาร์จผ่าน USB แทนการใช้ถ่าน 2A หนึ่งก้อน มีแผ่นเหล็กพับด้านล่าง ทำให้เราสามารถเลือกปรับองศาการตั้งข้อมือได้ว่าอยากตั้งเมาส์ข้อมือตรง ๆ แบบเมาส์มาตรฐานทั่วไปหรือปรับเมาส์ไปทางขวาเหมือนที่เจ้า M570 เป็น (M570 บังคับตั้งแค่เอียงไปทางขวาด้านเดียว) ข้อดีของเมาส์นี้คือมันแถมปุ่ม Back/Forward ที่เราใช้ประจำนี่แหละ สะดวกที่สุดเลย 5555
การปรับตัว
จากเมาส์ดั้งเดิมมาใช้ Trackball ให้ชินใช้เวลาร่วมสัปดาห์เลย เพราะเปลี่ยนนิสัยเดิมจากการขยับข้อมือกลายเป็นให้ข้อมืออยู่เฉย ๆ แล้วหมุนนิ้วโป้งแทน เหมือนทารกฝึกเดินใหม่ 5555 ยากนะ
ลิงค์ ซื้อ Logitech MX Ergo
📌 ซื้อเมาส์ Logitech MX Ergo บน Lazada คลิก
M570 ใช้ถ่าน 2A 1 ก้อน
สรุปผลความชอบ เมาส์ Ergonomic ทั้งสองประเภท
ปัจจุบันเราเลิกใช้ Trackball แล้ว หันมาใช้ Microsoft Sculpt Ergonomic ยาว ๆ โดยเมาส์ Microsoft มีประกัน 3 ปี
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความแน่ใจ เราอยากให้คุณไปลองสัมผัส ลองจับตามร้านพวก Banana IT, JIB ว่าคุณชอบมั้ย และที่จริงการไปทดสอบใช้ที่ร้านแค่ 10 นาทีมันไม่ค่อยช่วยตัดสินใจอะไรได้หรอก มันต้องไปหาของจริงมาลองเล่นลองใช้ประมาณชั่วโมงสองชั่วโมง ถ้าใครมีเพื่อนในบริษัทที่เขาใช้ตัวนี้ลองไปขอยืมเขามาเล่นดูสัก 2 ชั่วโมงดูว่าชอบมั้ย หรือนานกว่านั้น ถ้าเพื่อนยอม 5555 แต่บางคนก็มีนะที่ใช้ไปสัปดาห์แรก ๆ เกลียดมันมาก พอใช้ไปราวเดือนนึง รักมันเฉย เพราะอย่างว่าราคามันก็แพงกว่าเมาส์ตัวมาตรฐาน มันอันละ 1,500 บาทนี่นา แต่ถึงกระนั้น มันก็คุ้มค่ากับราคาที่เสียออกไปล่ะนะ (ถ้าไม่ชอบก็ลงขายมือสองได้ล่ะ เห็นคนเคยมาตั้งโพสขายกันอยู่)
บทความรีวิวอื่นๆ
🔑 ติดตามบันทึกสัพเพเหระอื่นๆ ใน GleeGourmet’s Journal
🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี | 🎬 รีวิว Film Series หนัง ซีรีส์
📊 Data Analytics – Tech | สารพันวงการ Data และเรื่อง Techๆ
