The School for Good and Evil รีวิวนิยายยำยำเหล่านิทานฉบับไตรภาคแรก [เล่ม 1-3][คลุมสปอย]

The School for Good and Evil cover 1-3
The School For Good & Evil เล่ม 1-3 ไตรภาคแรกจากทั้งหมด 6 เล่ม

รีวิว The School for Good and Evil

ช่วงมหาลัยเป็นช่วงที่เรากระเหี้ยนกระหือรือในการหาอ่านนิยายมาก เพิ่งซื้อ Kindle มาด้วย โหลด ebook มาอ่านสนุกเลย 55555 ตอนนั้นเข้าไปส่องนิยายแนว Fantasy เอย Sci-fi เอยและเรื่องนี้ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ที่ตอนนั้นคนแนะนำมา ตอนอ่านเรื่องย่อมันก็ดูเด็ก ๆ ใส ๆ นะ แต่ด้วยความอยากลองและวัยนั้นเราไม่ค่อยเรื่องมากในการที่จะคัดมาอ่านแต่ละเรื่อง ก็เลยเออ ๆ ลองดูหน่อยละกันมันคงไม่เสียหายอะไร เอาเข้าจริงซีรีส์นี้ก็มีถึง 6 เล่มจบ (แยกเป็นไตรภาค 1-2) แถมได้ประกาศทำเป็นหนังบน Netflix ฉายปี 2022 ด้วย ว่าแล้วเราต้องมาเขียนรีวิว/เมาท์มอยความรู้สึกก่อนหนังจะออกสักหน่อย !

⚡ บทความนี้มีการคลุมสปอย โดยสามารถกด popup เพื่อเปิดปิดได้
แต่ถ้าหากผู้อ่านต้องการหลบสปอยทั้งหมด สามารถอ่านแค่หัวข้อ “เนื้อเรื่องย่อเล่ม 1” และ “สรุปภาพรวมหนังสือ”


เล่ม 1

เนื้อเรื่องย่อเล่ม 1

The School For Good & Evil (ต่อจากนี้ขอย่อว่า SGE) ในหมู่บ้าน Gavaldon ทุกๆ 4 ปี จะมีเด็กถูกพลังงานลึกลับลักพาตัวไป รู้ตัวอีกทีเรื่องราวของเด็กพวกนั้นจะไปโผล่อยู่ในหนังสือนิทาน พวกเค้าจะมีสตอรี่เป็นของตนเอง อาจจะเป็นตัวเอก/ตัวร้าย/ลูกสมุน/หรือสัตว์…(คือโดนลากมาอีกโลกแล้วสุดท้ายชั้นได้กลายเป็นสัตว์ในนิทานงี้ ? ฮัลโหลลล 555)ในนิทานนั้นของร้านหนังสือแห่งหนึ่งในตัวเมือง ตัวละครหลักของเรา โซฟีสาวน้อยสดใส เบิกบาน ลุคโคตรจะสาวหวานกับเพื่อนซี้ของเธอ อกาธา ที่ลุคและนิสัยสุดจะขั้วตรงข้ามกับโซฟี โซฟีรู้สึกว่าชีวิตในหมู่บ้านนี่มันแย่ซะเหลือเกิน อยากโดนพลังงานลึกลับนี่ลักพาตัวไปสักที และแล้ววันหนึ่งโซฟีถูกลักพาตัวไปจริง ! อกาธาที่พยายามรั้งเพื่อนไม่ยอมให้พลังงานลากโซฟีไปง่าย ๆ แรงสู้เค้าไม่ได้เลยโดนลักพาตัวไปสองคน 55555
เมื่อพวกเธอถูกพลังงานลักพาตัวไป พลังงานนั้นจะทำการส่งพวกเธอไปโรงเรียนขัดปลวก ฝึกวิชาเพื่อให้พวกเธอเป็นตัวละครนิทานโดยสมบูรณ์แบบ โรงเรียนนี้ก็คือ School For Good & Evil ที่มีสองตึกด้วยกัน ตึกนึงจะเป็นตึกฝ่ายธรรมะสอนให้นักเรียนในนั้นเป็นตัวละครฝ่ายดี(ครูใหญ่ประจำตึกคืออาจารย์คลาลิซซ่า โดวีย์) และอีกตึกหนึ่งเป็นตึกฝ่ายอธรรมสอนนักเรียนให้เป็นตัวละครฝ่ายชั่วร้าย(ครูใหญ่ประจำตึกคือเลดี้ เลซโซ่) ซึ่งทั้งสองตึกจะมีผอ.สูงสุด (School Master) โดยบนยอดสุดนั้นจะมีปากกาวิเศษชื่อ Storian ที่จะคอยบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัวที่เกิดขึ้น



แน่นอนโซฟีสาวน้อยลุคโลกสวยของเราและอกาธาผู้อึมครึมควรจะได้กระเด็นไปอยู่โรงเรียนฝ่ายธรรมะกับอธรรมตามลำดับใช่มั้ยละ ปรากฏว่าไม่จ้าาาา โซฟีไปอยู่โรงเรียนฝ่ายอธรรม ! อกาธาไปอยู่ฝ่ายธรรมะ ! อ้าวเอ๊ะ ยังไง มันแปลกๆรึเปล่า นี่มันคนละเรื่องกับที่ควรจะเป็นเลยไม่ใช่เรอะ !!! สภาพแวดล้อมในโรงเรียนกับตัวชั้นมันแสนจะคนละขั้วแต่ไม่ว่าพวกนางจะพิสูจน์กันท่าไหนว่าพวกเค้าคู่ควรจะได้ไปอยู่อีกตึกนึง ไม่ว่าจะในคลาสเรียน หรือบททดสอบต่างๆ (มีบททดสอบให้นักเรียนเข้าไปสู้กันในป่าด้วย เหมือนสอบจูนินรอบ 2 ในนารุโตะเลย…เก่าไปมั้ยนะ ยกตัวอย่างเป็นงานสานสัมพันธ์ของโรงเรียนไสยเวทของ Jujutsu Kaisen น่าจะอัพเดตกว่าเนอะ) ยิ่งทำให้เรื่องแย่เข้าไปอีก ความสัมพันธ์อันซี้ปึ้กระหว่างโซฟี อกาธาจะยังอยู่ดีมั้ย? และภัยร้ายที่แท้จริงที่ค่อยๆ ย่างกรายเข้ามาโดยที่เหล่านักเรียน SGE ไม่ทันได้สังเกต มันจะเป็นยังไงกันต่อ ต้องไปอ่านต่อกันแล้ว !

Sophie

ความรู้สึกหลังอ่านเล่ม 1 จบ (สปอย)

ตัวละครในโรงเรียนมีตัวละครจากเทพนิยายต่าง ๆ ที่เราคุ้นตากัน Cinderella เอย Arthur เอย Geppetto (คุณปู่ใน Pinocchio) ก็มีบทบาท(รอง) ส่วนมากตัวละครดังๆ เหล่านี้เป็นตัวละครรุ่นพ่อรุ่นแม่ นอกนั้นจะเป็นตัวละครฝั่งรุ่นลูกซึ่งเป็นเจนเดียวกันกับโซฟี อกาธา


หลังจากอ่านจบในเล่มแรก มันสนุกกลาง ๆ ตามสไตล์งาน Middle Grade มีจุดตัวละครทำแอ๊คชั่นที่มันอิหยังวะ การงอน การเข้าใจผิดต่างๆ ความลังเล ยึกๆยักๆ ที่ดูเด้กกกเด็ก(สมวัย) ความขี้เหวี่ยงของโซฟี ความอึนของอกาธา ชอบคอนเซปต์เรื่องที่ว่าความดีความงามมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปพรรณเหมือนความเชื่อสมัยก่อน คุณจะดีไม่ดีมันอยู่ที่นิสัย (แต่ก็ไม่ทั้งหมด บางส่วนยังคงเป็นคอนเซปต์สไตล์นิทานดั้งเดิมอยู่เช่น ชื่อวิชาในโรงเรียนที่ฝั่งธรรมะเรียกวิชา Beautification ส่วนฝั่งอธรรมเรียก Uglification ซึ่งจริง ๆ จะให้มองว่าคล้าย ๆ เวลาพวกเราไปเล่นเกมส์ออนไลน์แล้วเลือกว่าจะเล่นสังกัดธรรมะหรืออธรรมแต่ไม่จำเป็นที่เนื้อแท้ต้องร้ายต้องดีตามนั้นจริง ๆ ก็ได้นะ) ส่วนการใช้เวทย์มนตร์ออกจะธรรมดาไปนิด ไม่ได้มีไม้กายสิทธิ์แบบ Harry Potter เป็นการเอานิ้วชี้เสกคาถานี่แหละ พลังจะออกมาจากนิ้วยิงโป้งๆๆๆ 5555 ช่วงไคลแมกซ์อ่านสนุกดี แอบเซอร์ไพรส์ฉากนึงในเล่มหนึ่งที่


Agatha

เล่มหนึ่งยังเป็นแค่การปูจักรวาล SGE และทิ้งท้ายตอนจบในฉบับที่ถ้าสำนักพิมพ์ตัดจบแค่เล่มหนึ่งก็ยังรอดตัวไปเพราะปมที่ทิ้งไว้ยังไม่ใหญ่มากไม่ได้ค้างคาจัด เคลียร์บอสไปได้หนึ่งตัว แต่ยังมีปมและตัวละครอีกเป็นตับที่รอเข้าฉากในเล่มหลังๆ



เล่ม 2

เนื้อเรื่องย่อเล่ม 2 (สปอยเล่ม 1)

หลังจากที่สองสาว

Tedros

ความรู้สึกหลังอ่านเล่ม 2 จบ (สปอยเล่ม 1-2)

ตอบโจทย์ความเป็นหนังสือเล่ม 2 ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างเล่มแรกและเล่มจบได้อย่างดี นั่นคือมีการเดินเส้นเรื่องหลักอยู่บ้าง มีบอสประจำเล่มที่ตัวละครหลักต้องฝ่าฟันรวมไปถึงการปูบททิ้งท้ายเพื่อขมวดในเล่มจบ บรรยากาศของหนังสือเล่มนี้ยังใกล้เคียงกับเล่มแรก เซตติ้งในตอนแรกอยู่ที่โลกปกติก่อนจะถูกวาร์ปมาโลกเทพนิยายอีกครั้งเหมือนรีรันฉากเดิมแค่เปลี่ยนจากโรงเรียน “ธรรมะ/อธรรม” เป็นโรงเรียน “ชาย/หญิง” เปิดตัวตัวละครใหม่และปมใหม่ๆเพิ่ม มุกเดินเรื่องบางอย่างให้บรรยากาศที่เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นเช่น

มาดูกันต่อว่าในเล่ม 3 จะสรุปจบยังไง

เล่ม 3

เนื้อเรื่องย่อเล่ม 3 (สปอยเล่ม 1-2)

ต่อจากเล่ม 2

วามรู้สึกหลังอ่านเล่ม 3 จบ (สปอยเล่ม 1-3)

สมราคาหนังสือเล่มจบไตรภาคเพราะเล่นใหญ่ไฟกะพริบ ขนาดศึกการต่อสู้แผ่เป็นวงกว้างสำหรับเปิดสงครามตามรูปวาดที่อยู่บนหน้าปก สมกับที่เป็นสงครามระหว่างฝั่งธรรมะ/อธรรมจริงๆ สู้กันนัว ตัวละครตายยับไม่มีกั๊ก อีกทั้งฉากสู้ ฉากโหดในเรื่องนี้ดูโหดผิดทางกับหมวดหนังสือที่ถูกจัดใน Middle Grade แม้ช่วงขมวดปม อาจจะมีจุดที่คนอ่านอ่านแล้วรู้สึกย้อนแย้งหรือการตัดสินใจของตัวละครบางตัวอาจดูไม่มีน้ำหนักมาก อ่านไปขมวดคิ้วไปในบางส่วนแต่ด้วยภาพรวมของหนังสือที่ปลุกปั้นและประคองได้ดีในช่วงแรก บทสรุปเรื่องนี้จึงยังไม่ถึงกับเข้าข่ายว่าตกม้าตายในเล่มจบแต่อย่างใด ต่อไปถึงช่วงสปอยแหลกแล้ว

และจุดจบในภาคนี้เป็นการเปิดฉากใหม่อีกครั้งในเล่ม 4-6 นั่นเองงง



สรุปภาพรวมหนังสือ The School For Good & Evil (ไตรภาคที่ 1)

โดยรวมคือมีความง๊องแง๊ง ตลอดเรื่อง มีความรำในบางตัวละครแต่ยังไม่ชวนหงุดหงิดจนถึงขั้นเลิกอ่าน พล็อตบางประเด็นที่ยังมีจุดย้อนแย้งบ้าง Plot Hole บ้างแต่พอจะมองข้ามไปได้ด้วยความที่เป็นหนังสือ Middle Grade เนื้อเรื่องพอมีความบันเทิง อ่านสนุก บางอย่างใส่มาได้เกินความคาดหมายสำหรับนิยายจำพวกเซตติ้งเป็นแฟรี่เทล หาทางลงได้โอเค ตัวละครเจ็บจริงตายจริง ไม่ใช้แสตนด์อิน ไม่ใช้สตั๊นท์ !

Sophie & Agatha

ถ้าอยากหาอ่านนิยายแนวยำ ๆ รวมมิตรแฟรี่เทลประหนึ่งหนัง Into the Woods, Once Upon A Time (ซีรีส์ช่อง ABC) ที่ถึงพล็อตไม่ได้แปลกใหม่เอี่ยมอ่องแต่ตัวคนเขียนมีความสามารถในการพลิกแพลงและดำเนินเรื่องให้ไม่น่าเบื่อ ไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีประเด็นเชิงปรัชญาหนักๆสอดแทรกเพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มาตอบโจทย์ในลักษณะนั้น มี Plot Hole บ้างหน่อยแต่พอหยวนๆ ได้ เป็นอีกซีรีส์อ่านสนุกที่แนะนำให้อ่านให้ครบ 6 เล่มเพราะ 3 เล่มแรกที่คิดว่าปิดปมได้แล้วแต่ 6 เล่มนั้นสามารถสรุปตอนจบจักรวาลนี้ได้สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าโดยที่ไม่ตกม้าตายเหมือนพวกภาคต่อในหลายๆ เรื่อง สำหรับตัวหนัง Netflix ที่จะฉายปี 2022 นั้นจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน แค่เห็นนักแสดงรุ่นเดอะกับภาพปิดยั่วๆก็ชวนตื่นเต้นแล้วและรายละเอียดปลีกย่อยเปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไร มารอดูกันวันฉาย (บล็อกนี้เขียนตอน 2021)

ภาพโปรโมตฉบับภาพยนตร์กับนักแสดงรุ่นใหญ่ระดับตัวแม่

อัปเดต: ฉบับภาพยนตร์ Netflix ดีมั้ย?

เราได้ดูตัวหนังแล้ว มันเป็นหนังที่พอดูได้ตามท้องเรื่องความเป็นหนังสองชั่วโมง
ซึ่งบทหนังได้นำแก่นเรื่องในหลายๆ เล่มมายำใหม่ให้สามารถเล่าเรื่องรวบรัดจบในสองชั่วโมงแทนที่จะดัดแปลงหนังภาคละเล่ม หากดูเปล่าๆ ก็พอบันเทิงอยู่ล่ะแต่ต้องยอมรับในความที่เส้นเรื่องต่างจากหนังสือพอสมควร
อ่านรีวิวตัวหนังในมุมมองของเราฉบับเต็ม ๆ ได้ในบทความนี้

คะแนนหนังสือไตรภาคแรก (★★★★☆)

หลังจบไตรภาคแรก ผู้เขียน Soman Chainani ออกหนังสือแฟนบุ๊ค 4 สีไว้เหมือนสารานุกรมโรงเรียน SGE อ่านเพลินเล่น ๆ ใครใคร่เก็บสะสมก็ตามไปเก็บกัน

หนังสือแฟนบุ๊ค: The Ever Never Handbook fanbook school for good and evil
หนังสือแฟนบุ๊ค: The Ever Never Handbook

🦢 ในส่วนของนิยายไตรภาค 2 เราจะขอไปขึ้นโพสใหม่ละกัน มารอดูกันว่าจะเริ่มเขียนเมื่อไหร่ 5555

แต่ถ้าใครอดใจรอไม่ไหว สามารถส่องรีวิวเราที่เขียนเป็นย่อหน้าสั้นๆ เล่ม 4-6 บน Goodreads ได้ (เขียนเป็นภาษาอังกฤษ)

คำเตือน มีสปอยในรีวิวที่ไปไกลกว่าไตรภาคแรกแน่นอน โปรดตัดสินใจก่อนการกดอ่าน
เล่ม 4 | เล่ม 5 | เล่ม 6
เล่ม 0.1, เล่ม 0.2 (ภาคต้นก่อนเรื่องราวเล่ม 1 ควรอ่านให้จบทั้งสองไตรภาคก่อน)

📚 ซื้อหนังสือ The School for Good and Evil (ยังไม่มีแปลภาษาไทย) ได้ที่เว็บ Kinokuniya (คลิก)

สำหรับใครที่อยากชวนคุยเรื่องนี้ มาคุยกันได้ที่ About Me หรือแอด Goodreads เรามาได้นะฮ้าบ


บทความอื่นๆ

🔑 ในที่สุดเราก็เจอ “หนังในดวงใจ” กับเค้าสักทีกับ Ice Castles (1978)

🔑 รีวิว Mistborn มิสบอร์น นิยายภาค 1 [เล่ม 1-3] ปฏิวัติแดนขี้เถ้า [คลุมสปอย]

🔑 รีวิว นิยาย The Rithmatist ริธเมทิสต์ สะบัดชอล์กสืบคดีที่กรีดร้องรอเล่มต่อ

🔑 รีวิว Fairest Domestay ที่พักกาญจนบุรี มาพักในโดมก้อนกลมรายล้อมด้วยป่ากลางเมืองกาญดีกว่า

📚 อ่านรีวิวนิยาย, หนังสือเล่มอื่น ๆ: https://gleegmjournal.com/category/review/book/

🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี | 📺 Anime อนิเมะ

📊 Data Analytics – Tech | สารพันวงการ Data และเรื่อง Techๆ | 🪴 สารบัญรีวิวทุกประเภท All Reviews

Loading

GleeGM

My journal on personal life and interests including Data Analytics 📈, Books 📚, Music 🎶, Basketball 🏀, Figure Skating ⛸, Anime, Film 📺, Tarot, Lenormand, Uranian Astrology🔮

You may also like...