รีวิว Medalist ทอฝันบนลานสเกต มังงะฟิกเกอร์สเกตเรื่องล่าสุด รอคอยเซตติ้งแบบนี้มานานแล้ว !
รีวิว medalist
สารบัญ
เกริ่นนำ
เมื่อไม่นานมานี้ ทราบข่าวว่ามีมังงะเกี่ยวกับ Figure Skating เรื่องล่าสุด เพิ่งเขียนออกมาในช่วงกลางปี 2020 อย่าง Medalist สำหรับแฟนสเกตอย่างเรา มันทำให้อดตื่นเต้นอีกครั้งไม่ได้ ! 55555 ยิ่ง Figure Skating เป็นกีฬาสุดเฉพาะกลุ่ม จึงมีคนผลิตคอนเทนต์กีฬานี้น้อยกว่ากีฬาประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะสื่อบันเทิงอย่างกลุ่มมังงะ/อนิเมะ และพอได้ลองอ่านจริง ตัวมังงะกลับทำได้เกินความคาดหมายและตอบโจทย์ในความต้องการเราหลาย ๆ ประการด้วย ! เดี๋ยววันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่ามันเป็นอะไรยังไงบ้าง
จะว่าไป Figure Skating เองเป็นกีฬาที่ช่วงหลังมานี้เริ่มถูกพูดถึงในวงการคนไทยเป็นวงกว้างขึ้น(เป็นเรื่องดีๆ) ส่วนนึงคิดว่าอาจจะเกิดจากอิทธิพลของนักกีฬาสุดโหด Yuzuru Hanyu (เก่งจริง ยอม) และอิทธิพลของอนิเมะแนวสเกตน้ำแข็งที่กระแสตอบรับออกมาเป็นเชิงบวกอย่าง Yuri on Ice!! ส่วนอนิเม Figure Skating เรื่องอื่นมี Ginban Kaleidoscope ที่ต้นฉบับเป็น Light Novel ก่อนจะถูกดัดแปลงให้เป็นมังงะและอนิเมะตามลำดับและเรื่องล่าสุดในตลาดตอนที่เขียนบทความนี้คือ Skate-leading Stars ที่เราดูจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา 😅
ชวนดูฟิกเกอร์สเกตฉบับ 101
สำหรับคนที่สนใจอยากปูพื้นฐานดู Figure Skating ให้รู้เรื่องขึ้น เรามี [Figure Skating 101 สำหรับคนดู] ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า Figure Skating ไม่ได้ดูยากอย่างที่คิด !
⛸ [ตอนที่ 1] มาแยกท่า Jump ใน Figure Skating กันเถอะ ฉบับเทคนิคน้อย
⛸ [ตอนที่ 2] มาอ่าน ใบคะแนน ของ Figure Skating กันเถอะ ฉบับเลขน้อย (เหรอ !?)
สำหรับเราที่เป็นแฟนห่างๆ ของ Figure Skating เริ่มมาตามดูเป็นคนๆ ช่วง 2012 – 2013 จากที่กดสุ่มรายการในช่องเคเบิ้ลที่บ้านแล้วไปเจอรายการสเกตเอเชียที่บังเอิญมีน้องคนไทยไปแข่ง ก่อนจะไปจ๊ะเอ๋ปลุกไฟในตัวคุณอีกรอบกับทวิตของทวิตเตอร์นักวาดการ์ตูน Gakuen Alice (วัยซนคนมีพลังจิต) ที่เค้าชอบหวีดสเกต เออ จุดเริ่มต้นแปลกดี 55555 สมัยนั้นหาดูสดยากมาก ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ ISU อัพไลฟ์ลง Youtube กลับมาดูย้อนหลังสบายๆ และพื้นเพเราชอบอ่านการ์ตูนเป็นทุนเดิมด้วย(แวะอ่านบล็อกรีวิวอนิเมของเราได้ในลิงค์นี้) ดังนั้นถ้ามีมังงะหรืออนิเมะที่เป็นแนว Figure Skating ผลิตออกมาก็ทำเราอยากดูทั้งนั้น หลังจากที่เราดู Yuri on Ice!! จบไป เรารู้สึกโอเคกับมันในระดับนึงแต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างของการเป็นอนิเมชั่นและจำนวนตอนที่จำกัดเพราะมีแผนฉายแค่ 1 ซีซัน มันคงเล่าได้ไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่นักประกอบกับเดิมทีเราตามสเกตฝั่งหญิงเดี่ยว อินการประชันกันสุดขับเคี่ยวในยุคของ Kim Yuna และ Asada Mao เป็นพิเศษ จึงไม่ได้อินกับเนื้อเรื่อง YOI ที่เป็นประเภทชายเดี่ยวเสียเท่าไหร่ ฉะนั้นการที่มาเจอมังงะ FS ที่ตัวเอกของเรื่องคือฝั่งหญิงมันจึงตอบโจทย์เรามากกว่า
เนื้อเรื่องย่อในช่วงเล่มที่ 1
สึกาสะ ชายหนุ่มผู้แป็กในกีฬาสเกตอาชีพกำลังตกงาน เขาทยอยสมัครงานพวกสเกตอีเวนท์ต่างๆ แต่โดนปฏิเสธไปทุกราย จนกระทั่งเขามีโอกาสประสบพบเจอกับเจ้าหนูอิโนริ เด็กหญิง ป.5 ผู้มีความมั่นใจในตัวเองน้อย ถ้าโดนใครตำหนิติเตียนเธอหน่อย เธอสามารถขวัญเสียได้เลยแต่ถึงกระนั้นเธออยากเล่นสเกตน้ำแข็งจริงจัง ซึ่งมันค่อนข้างเริ่มช้าในวัยของเธอ (กีฬานี้อาศัยความตัวอ่อนสูงจึงควรฝึกตั้งแต่ยังเล็กราวๆ 5-6 ขวบ) ทว่าเธอแสดงศักยภาพทางด้านกีฬาสูงจนสึกาสะเห็นแวว เค้าจึงอาสาตัวเองบอกคุณแม่อิโนริว่าเค้าจะขอโค้ชให้น้องคนนี้นะ ! สึกาสะที่แป็กจากสเกตอาชีพจะสานฝันให้อิโนริได้สำเร็จมั้ยนะ !?
ความเห็นหลังอ่านเล่ม 1-4 จบ
ตอนแรกที่เราอ่าน ก็อ่านแบบไม่คาดหวังสูงไปก่อนล่ะนะเพราะเข็ดจากความคาดหวังสูงไว้หลายเรื่อง ฮา แต่เรื่องนี้ทำได้เซอร์ไพรส์ในหลายๆ ประการ ประการแรกคนเขียน TSURUMAIKADA ตั้งใจหาข้อมูลกีฬานี้ถึงกับไปลองเล่นสเกตเอง (แล้วก็มาเล่าในปกพับเล่ม 1 ว่าเพิ่งบาดเจ็บจากการเล่นสเกตน้ำแข็ง😭) ในมังงะเองมีเขียนเครดิตขอบคุณผู้เชี่ยวชาญวงการสเกต นี่จึงอนุมานได้ว่าเขาไปหาผู้เชี่ยวชาญวงการนี้มาให้คำแนะนำในส่วนเทคนิคสเกตเพิ่มเพื่อคอยให้ Reference ส่วนลายเส้นวาดได้สวยเกินต้าน หมดห่วงได้เลย ลูกตาเป็นประกาย เบลดน้ำแข็งกระเซ็นขึ้นมาคมๆ
ประการต่อมาคือเซตติ้งที่ทำได้ตอบโจทย์เรา ก็ตัวเอกเป็นฝั่งหญิงนี่นา ช่วงกลางเล่ม 1 เป้าหมายน้องอิโนริบอกกับสึกาสะว่า เธออยากไปโอลิมปิก ง่อววว น้องไม่ได้มาเล่นๆ ด้วยความที่เธอเพิ่ง ป.5 (อายุคงราวๆ 10-11) กว่าจะถึงโอลิมปิกรุ่นผู้ใหญ่ อายุขั้นต่ำก็ต้องเข้า 15 ปี (แต่ถ้าอิงกฎตัวล่าสุดที่เพิ่งแก้ไขตอน 2022 อายุขั้นต่ำสำหรับ Winter Olympics Milano 2026 คือ 17 ปี) เราเลยแทงไว้ว่าเนื้อเรื่องคงจะมีไทม์สคิปคล้ายๆ 666 ซาตาน (O-Parts Hunter) ซึ่งช่วงเล่มแรกๆ เป็นเนื้อเรื่องตัวละครวัยเด็กก่อนเขยิบไปตอนโตแล้ว มาลุ้นดีไซน์น้องตอนโตกับบุคลิกจะพัฒนาขึ้นมากน้อยแค่ไหน ไหนจะคู่แข่งที่ดูผู้เขียนจะชูเทียบเคียงอย่างน้องมิเกะและฮิคารุที่เขียนคาแรคเตอร์ออกมาได้น่าเชียร์เหมือนกัน นอกเหนือไปจากการแข่งขันระหว่างนักกีฬาแล้วยังมีการแข่งขันระหว่างโค้ชอีกด้วย นั่นคือโค้ชของฮิคารุ จุน โยดากะ (Jun Yodaka) อดีตนักกีฬาสเกตชายเดี่ยวระดับท็อปที่สึกาสะชื่นชมและเคยอยากไปเทียบชั้นเท่าเค้า(แต่ไปไม่ถึง) ถึงจะดูหล่อแต่ปากร้ายจัด เคยด่าอิโนริให้เสียขวัญจนตัวสั่นเทาไปหมด
เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างโค้ช นักกีฬา การต่อสู้ระหว่างนักกีฬาด้วยกันเองและโค้ชอีกต่อนึง อ่านแค่นี้ก็ดูน่าสนุกแล้วเนอะ
เนื้อหาด้านเทคนิค Figure Skating
ในส่วนของเนื้อเรื่อง เซตติ้งผ่านเกณฑ์ความคาดหวังเราไปแล้ว ส่วนต่อมาที่อดพูดไม่ได้สำหรับการ์ตูนกีฬาคือเรื่องของเทคนิค เราค่อนข้างประทับใจคือในการ์ตูนมีอธิบายเทคนิคหลายๆ อย่างที่ฝั่งคนดูคงไม่ได้พบเห็นหน้ากล้องด้วยเช่นการฝึกท่าๆ นึงต้องฝึกท่าเบสิคอะไรบ้าง บิดข้อเท้าอย่างไร เพราะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่เรียนสเกตจริงๆ ศัพท์เทคนิคบางคำเราเพิ่งจะรู้จักเช่น ระยะห่างตอนนักสเกตเข้าไปวอร์มอัพเค้าเรียกว่าสโตรค (Stroke) และประทับใจมากขึ้นเมื่อยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ เนื้อเรื่องสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวงการสเกตที่กลุ่มคนดูขาจรอาจไม่ทราบเลยถ้าไม่ได้ตั้งใจหาข้อมูลจริงๆ การ์ตูนแนะนำเบสิค 101 ในฉบับที่คนไม่เคยดูสเกตก็ตามทันได้ไม่ยาก ตั้งแต่โปรแกรมแข่งสเกตมีสองโปรแกรมอย่าง Short Program, Free Skate การใส่ท่ากระโดดไว้ช่วงครึ่งหลังจะได้คะแนนที่มากกว่า การที่คนถือถังน้ำแข็งเข้าไปถมน้ำแข็งตบ ๆ ในหลุมบนลานไอซ์ระหว่างพักเพราะรถ Zamboni ไม่สามารถเกลี่ยน้ำแข็งได้เกลี้ยงเกลาพอ และเนื้อหาส่วนที่เราไม่เคยรู้มาก่อนคือ การสอบวัดระดับ เนื่องจากอิโนริฝึกสเกตช้ากว่าใครเพื่อน ไหนเธอจะต้องรีบไต่ระดับไล่ให้ทันฮิคารุ เนื้อเรื่องพาไปเข้าใจระบบไต่ระดับของสมาคมสเกตญี่ปุ่นซึ่งถ้าใครคลุกคลีอยู่กับวงการสเกตญี่ปุ่น(สมาคม JSF) มานานก็อาจจะพอทราบ แต่อย่างว่า ข้อมูลสอบวัดระดับของฝั่งญี่ปุ่นนี่เรียกว่าเป็นกล่องดำสำหรับคนดูบ้านๆ อย่างเราเลยก็ว่าได้ Medalist จึงเปิดเลนส์เปิดโลกเราอะไรให้เราหลายๆ อย่างมากขึ้นในด้านเทคนิคและบทสนทนาในเรื่อง+เทคนิคใส่มาอัดแน่นชนิดที่คนอ่านอาจจะเหนื่อยอ่านได้ง่ายๆ 55555
ความสนุกในด้านการเป็นการ์ตูนกีฬา
ขึ้นชื่อว่าการ์ตูนกีฬา มันต้องทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นขับเคี่ยวในการทำคะแนนเหมือนดูกีฬานะ ซึ่งเอาจริง หลังจากที่สังเกตมา ฟอร์แมตอนิเมะกีฬามันค่อนข้างเสียเปรียบกว่ามังงะกีฬาเพราะ “กีฬา” อาศัยฉากที่มีการเคลื่อนไหวสูง ถ้าสตูดิโออนิเมชั่นไม่ประณีตหรือเผางานขึ้นมาหน่อยเดียว คนดูสามารถจับผิดและหักคะแนนได้โดยง่ายต่างกับแนวอื่นๆ เช่น Slice of Life ที่อาจพอถูไถฉากเผาซ่อนได้เนียนๆ จุดนี้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มังงะกีฬาอ่านสนุกแต่งานดัดแปลงอนิเมะของมันเองกลับแผ่วลง
ร่ายกันไปยาวแล้ว สรุป Medalist ผ่านมั้ย ?? หลังจากที่เจอฉากแข่งสเกต มันเล่าเข้มข้นอยู่นะ เออ การ์ตูนใส่มาให้ด้วยว่าตัวละครสเกตเพลงอะไร เราต้องเปิดเพลงคลอด้วยสินะ 😂 (เพลง Jupiter ของ Gustav Holst / Danse Macabre ของ Saint-Saens) ทั้งบรรยากาศในสนาม/นอกสนาม กรรมการคิดอะไรอยู่ สึกาสะคิดอะไร มีการลิสต์ชื่อท่ากระโดดให้เห็นว่าตัวละครจะกระโดดท่าอะไรบ้าง การคำนวณคะแนนท่าเทคนิคแบบคร่าวๆ เกริ่นแนะนำท่าสเกตน้ำแข็งท่านี้คืออะไรเพื่อไม่ให้คนอ่านที่ไม่มีพื้นฐานเลยรู้สึกไม่รู้เรื่อง การแก้เกมส์เปลี่ยนท่ากระโดดระหว่างแข่งเพื่อที่จะพลิกคะแนนมาตีตื้นหากนักกีฬาเกิดผิดคิวจากที่วางแผนเอาไว้ (มีให้เห็นบ่อยตอนแข่งสเกต) มีฉากชวนสะเทือนใจจนตัวละครในเรื่องร้องไห้หรือดีใจออกมาซึ่งมันประคองจังหวะและสื่อออกมาถ่ายทอดถึงคนอ่านจริงๆ นับว่าในส่วนนี้ การ์ตูนสามารถตอบโจทย์เราได้ดี สอบผ่านในการนำเสนอทางด้านความสนุกทางกีฬา ถ้าจะมีจุดให้ติงก็คงเป็นความเวอร์นิดๆ ตามสไตล์การ์ตูนที่ไม่ถึงกับระดับซูเปอร์พาวเวอร์แต่ชวนแซวหน่อยๆ เช่น น้องๆ รุ่น Novice ตะลุยโดด Quad (หมุนตัวสี่รอบ) กันจริงจัง ทำไมรีบ 5555 ซึ่งในชีวิตจริง ฝั่งหญิงญี่ปุ่นที่โดด Quad แล้วมาใช้แข่งจริงจังก็มีเพียงหยิบมือ (แต่ถ้าฝั่งรัสเซียล่ะก็ กระโดด Quad ตั้งแต่รุ่นเล็กจนเป็นเรื่องปกติ ถึงจริงๆ จะไม่ใช่เรื่องดีในด้านกายภาพนักในการรีบดันศักยภาพร่างกายเด็กให้เล่นท่ายากๆ) ถ้าเรื่องนี้จะได้ประกาศทำอนิเมะในอนาคตก็ต้องลุ้นกันล่ะว่าสตูดิโอไหนจะได้เธอไป หวังว่าจะไม่เอาเธอไปแกงนะ หากค่ายที่หยิบไปไม่แกง ทำดีจัด ก็ขอมั่นไว้ก่อนว่ามันมีดีกรีระดับ Anime of the Season ได้อ่ะ เอ้า !
ลานไอซ์สำโรงมีบทในการ์ตูน Medalist ซะด้วย !
ในช่วงเนื้อเรื่องล่าสุดของ Medalist ประมาณเล่ม 10 เป็นต้นไป เนื้อเรื่องเข้าสู่ภาค JGP อิโนริ (นางเอก) จากต้นเรื่องที่อยู่รุ่น Novice ได้ขึ้นมารุ่น Junior แล้วและต้องมาเก็บคะแนนในซีรีส์ Junior Grand Prix เพื่อไล่คู่แข่งของเธอ (ฮิคารุ) โดยหนึ่งในประเทศที่น้องถูกคัดให้มาแข่งก็คือไทยนั่นเอง 55555 ซึ่งคนเขียนค้นข้อมูลมาดีเลย แกวาดลานสำโรง(ลานไอซ์มาตรฐานตามสมาคมสเกต ISU ที่ใช้จัดแข่งรายการไอซ์สเกต), สนามบินสุวรรณภูมิได้ตรงปกสุด ตลกที่น้องตกใจสายฉีดก้นในห้องน้ำ นี่คือภูมิปัญญาแสนจีเนียสของคนไทย 55555 หรือจะอเมซิ่งความมีอาหารให้ซื้อข้างทางบ้านเรา มีเขียนทั้งเรื่องที่ลงไปกินข้าวตรง Food Court ในห้างก่อนจะขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นโรงหนังที่มีลานไอซ์ (เป๊ะจริง) ซึ่งระยะเวลาที่เนื้อเรื่องภาคนี้ (ต้นปี 2024) ออกกับเวลาที่งาน JGP 2023 จัดก็เว้นช่วงยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ถือว่าอัปเดตสุดๆ 55555 แถมบังเอิญว่าเราเองก็เคยไปดูรายการนี้ที่สนามเหมือนกัน (คลิกเพื่ออ่านบทความตอนไปดูรายการ JGP 2023)
ประกาศทำอนิเมะแล้ว !
ตอนพ.ค. 2023 Medalist ประกาศสร้างอนิเมโดยสตูดิโอ ENGI จากรายชื่อทีมงานที่ประกาศออกมา เรามองว่าออกมาในระดับกลางๆ เป็นมวยไม่ค่อยถูกคู่เท่าไหร่หากเทียบกับคุณภาพมังงะ บ้างก็ว่าไม่แปลกใจที่ค่ายได้นี้ไปเพราะ ENGI อยู่ภายใต้เครือ Kadokawa ซึ่งถือลิขสิทธิ์การ์ตูนเรื่องนี้อยู่ (เค้าก็ต้องป้อนงานให้บริษัทลูกก่อนล่ะนะ) ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่โดนแกงจนเสียของ และจะยังไม่ตั้งความคาดหวังไว้สูงมากนัก ได้แต่หวังอยู่ลึกๆ ว่าเราจะคาดการณ์ผิด
⋱⋰ ⋱⋰ ⋱⋰ ⋱⋰ ⋱⋰
— 『メダリスト』TVアニメ公式⛸🏅 (@medalist_PR) May 18, 2023
『 #メダリスト 』
TVアニメ化決定🏅
⋰ ⋱⋰ ⋱⋰ ⋱⋰ ⋱⋰ ⋱
ティザービジュアル&
MAIN STAFF発表⛸❄️
監督:山本靖貴
シリーズ構成・脚本:花田十輝
キャラクターデザイン:亀山千夏
アニメーション制作:ENGIhttps://t.co/9D1uM91r7S#medalist pic.twitter.com/gCqky8DRDg
LC ฉบับไทยโดยค่าย SIC
📌 ค่าย Siam Inter Comics ประกาศ LC เรียบร้อยแล้ว ในชื่อไทย “Medalist ทอฝันบนลานสเกต” ราคาอยู่ที่ 95.-
ถือว่าราคาเบากระเป๋ากว่าเล่มอังกฤษ
📌 LCฉบับภาษาอังกฤษให้ซื้ออ่านแบบถูกลิขสิทธิ์ออนไลน์ [มีบนรูปแบบ Google Book, Amazon Kindle, Apple Book ฯลฯ] ตกเล่มละ 230~240฿ 🥶🥶🥶 แต่ Medalist เล่มอิ๊งตอนนี้มีขายแค่ ebook ส่วนแบบเล่มทางสำนักพิมพ์มีแผนตีพิมพ์ตอนต้นปี 2024
ในตอนนี้มีการตีพิมพ์ซ้ำเรื่อยๆ ที่ญี่ปุ่น ล่าสุดขายได้ 350k เล่มแถมมีแปลไปเป็นภาษาเกาหลี อิตาลีอีกด้วย จึงพออนุมานได้ว่ากระแสดีอยู่
รีวิวฉบับแปลไทย (เล่ม 1-5)
หมายเหตุ: รีวิวนี้เป็นจากฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ของเล่ม 1-5
1. จุดพิมพ์ตก/เบิ้ล, การถอดเสียงทับศัพท์
จากที่อ่านฉบับภาษาไทยมาห้าเล่ม พบคุณภาพการแปลมีปัญหาที่ค่ายนี้มักจะมีในช่วงหลังๆ และคิดว่าถ้าในเล่มถัดๆไป สามารถแก้ไขได้จะเป็นการดี นั่นคือสำนวนการแปลที่แข็งไปหน่อย อ่านแล้วยังไม่ไหลลื่น ต้องอ่านทวนซ้ำเพื่อทำความเข้าใจอีกที ประกอบกับมีการคำแปลสลับช่อง พิมพ์ตก พิมพ์เบิ้ล ตามจุดต่างๆ
ในส่วนของการถอดคำภาษาอังกฤษไม่ตรง พอเข้าใจได้เนื่องจากการถอดคำภาษาอังกฤษไปญี่ปุ่นจะมีการเพี้ยนจากเสียงเดิมเนื่องจากเสียงญี่ปุ่นเค้ามีไม่ครบ จึงอาจทำให้เวลาแปลไทยมาอีกรอบอาจเพี้ยนตาม กรณีนี้คือจากคำที่ถูกต้อง ฟลายอิ้งซิทสปิน(Flying Sit Spin) กลายเป็น ฟลายอิ้งช็อตสปิน(Flying Shot Spin) ถ้าได้ตีพิมพ์รอบสองก็อยากให้แก้จุดนี้ล่ะนะ ส่วนกรณีใกล้เคียงกันในเรื่องอื่นของสำนักพิมพ์นี้ก็เห็นจะมีการถอดเสียง Black Magician Girl (แบล็คเมจิเชียนเกิร์ล) ใน Yu-Gi-Oh! ที่ถอดเสียงออกมาตงฉินเลยว่า แบล็คเมจิเชียนกาลู 😅 (แต่เห็นว่า Yu-Gi-Oh! ที่เอาลง meb แก้ไขคำนี้แล้ว)
2. การเกลารูปสำนวนประโยค
เรารู้สึกว่าแนวทางการแปลของสำนักพิมพ์ในตอนนี้คือการถอดภาษาต้นฉบับมาให้เที่ยงตรงที่สุด ชนิดคำต่อคำ นั่นทำให้หลายๆ ครั้ง เมื่อคนไทยอ่านแล้วจะค่อนข้างรู้สึกสับสนความหมายของมันในแว็บแรก ทำให้ต้องหยุดอ่านเพื่อทำความเข้าใจประโยคนั้นๆ และมีบางจังหวะที่ถ้าหากใช้คำอื่นแล้วจะช่วยทำให้อ่านแล้วดูธรรมชาติเข้าปากคนไทยยิ่งขึ้น
จากที่เล่าในหัวข้อบนๆ ว่าเทคนิค Figure Skating เรื่องนี้ใส่มาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม เฟรนด์ลี่กับผู้ที่ไม่เคยตามดูกีฬานี้เป็นอย่างดี เพราะเล่าตั้งแต่เบสิกทั้งหมด มัดรวมสิ่งที่ควรรู้มาให้ในการ์ตูนจนไม่ต้องไปหาอ่านตามเน็ต ซึ่งปกติเนื้อหาเชิงเทคนิคพวกนี้ค่อนข้างกระจัดกระจายบนเน็ตและปะติดปะต่อลำบากสำหรับคนดูมือใหม่ อารมณ์เดียวกับที่การ์ตูน Eyeshield 21 ปูพื้นฐานให้คนอ่านสามารถเข้าใจอเมริกันฟุตบอลในเบื้องต้นเพื่อไปเริ่มดู NFL แล้วไม่มึน
พอเนื้อหาภาคเทคนิคสเกตมันเยอะ ความซับซ้อนของบทพูดก็เยอะตามไปด้วย หลายๆ ประโยคที่แปล หากสามารถเรียบเรียงให้อยู่ในรูปที่อ่านได้ธรรมชาติและเข้าใจง่ายกว่านี้ได้ก็จะทำให้คนอ่านอ่านได้สนุกขึ้น ตัวอย่างเช่น
ต้นฉบับ:
“ครึ่งหลังแรงกายและแรงสมาธิลดลงทำให้พลาดเพิ่มขึ้นครับ การตรวจสอบความผันผวนของอัตราสำเร็จของท่าก็เป็นกลยุทธ์สำคัญครับ”
หากเกลาเป็น
“พละกำลังและสมาธิของนักกีฬาจะลดลงในครึ่งหลังทำให้สเกตพลาดง่ายขึ้น ดังนั้นการประเมินว่านักกีฬาจะกระโดดท่านั้นๆ สำเร็จในครึ่งหลังมั้ยจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ”
ก็จะอ่านลื่นขึ้น
แต่ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าต้นฉบับญี่ปุ่นมีรูปสำนวนยังไง เป็นไปได้ว่าผู้แปลอาจจะแปลโดยรักษาไวยากรณ์เดิมของต้นฉบับ(จากที่เล่าไว้ด้านบน) จึงทำให้รูปประโยคที่แปลออกมาไม่ใช่สำนวนแบบไทยๆ และทำให้อ่านยากไปโดยปริยาย
3. การเลือกคำสรรพนาม
ตัวมังงะแปลออกมาได้ตรงตามความหมายล่ะ แต่เหมือนประโยคเหล่านั้นยังไม่ได้ผ่านการสวมหมวกตัวละคร เลยทำให้พออ่านโดยรวมแล้วมันหลุดคาแรคเตอร์ไปหน่อย ตัวอย่างเช่น กรณีด้านล่างที่น้องโยพูดกับคุณพ่อที่พาลูกมาดูสเกตแต่โยไม่เข้าใจกติกาฟิกเกอร์สเกตเลยอารมณ์บูด
ในช่องคำพูดมีการพูดคุณพ่อ หรือใช้คำว่า อะ ซึ่งทำให้ชวนน่าเอ็นดูแต่เมื่อแทนบุคคลที่หนึ่งด้วย ฉัน ในการพูดกับคุณพ่อเลยดูเป็นคนห่างเหินไป 😅
หากเกลาเป็น
“ถ้าไม่เข้าใจกฎการแข่งมันก็น่าเบื่ออะ/ก็น่าเบื่อนี่คะ หนูไม่มีเซนส์ในการดูคนเต้นแล้วรู้สึกประทับใจเหมือนคุณพ่อนี่นา“
ก็จะดูใกล้ชิดมากขึ้น
ส่วนที่เหลือ คุณภาพหนังสือ การพิมพ์ เนื้อกระดาษเนียนเรียบดี เอาเล่มมาวางเรียงกันแล้วสวยเลย ตารางการวางแผงก็ค่อนข้างไว เหลือเพียงปรับให้สำนวนอ่านสบายขึ้นและลดจุดพิมพ์ตก,พิมพ์เบิ้ล สลับช่องต่างๆ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
⛸ รีวิว Ice Castles (2010) รีเมคหนังคลาสสิกไอซ์สเกตจากผู้กำกับเดิมที่ก้าวข้ามต้นฉบับไม่ได้
🎵 9 (2+7) เพลง อนิเมะที่ดนตรีแปลกในวงการ Anisong แถมติดหูอีกต่างหาก
🎵 รวม 40 OST เพลง Fire Emblem โปรดน่าฟังเกือบทุกภาค !
🔑 ติดตามรีวิวอนิเมะอื่นๆ ได้ใน https://gleegmjournal.com/category/pop-culture/anime/
⛸ บล็อกหัวข้อ Figure Skating ทั่วไป https://gleegmjournal.com/category/sport/figure-skating-all/
🏀 บล็อกหัวข้อกีฬา คลิก | 📖 รีวิวBook หนังสือ |🎧 รีวิว Music ดนตรี | 📺 รีวิว Anime อนิเมะ | 🪝 รวมมิตรรีวิวทุกประเภท All Reviews
🔑 Find me in: Anilist | MyAnimeList | About Me
รีวิว medalist